อิสราเอลส่งเครื่องบินรบโจมตีสถานที่ต่างๆ ในเลบานอนและฉนวนกาซา ในช่วงเช้าวันที่ 7 เมษายน ตอบโต้การโจมตีด้วยจรวดต่ออิสราเอล
อิสราเอลส่งเครื่องบินรบโจมตีสถานที่ต่างๆ ในเลบานอนและฉนวนกาซา ในช่วงเช้าวันที่ 7 เมษายน ตอบโต้การโจมตีด้วยจรวดต่ออิสราเอล ซึ่งถูกระบุว่าเป็นฝีมือของกลุ่มฮามาสและเฮซบอลเลาะห์ หลังความตึงเครียดพุ่งสูงขึ้นเมื่อตำรวจอิสราเอลบุกโจมตีมัสยิดอัล-อักซอในกรุงเยรูซาเลมในสัปดาห์นี้ ซึ่งทำให้สถานการณ์รุนแรงจนหวั่นวิตกว่าจะคุมไม่อยู่
ก่อนรุ่งสางวันนี้ กองทัพอิสราเอลระบุว่า ได้โจมตีเป้าหมายของกลุ่มฮามาสทางตอนใต้ของเลบานอน ซึ่งมีรายงานเหตุระเบดขึ้นที่พื้นที่รอบค่ายผู้ลี้ภัยในเลบานอนด้วย ขณะที่ในพื้นที่ฉนวนกาซา อิสราเอลกล่าวว่า เครื่องบินรบได้โจมตีเป้าหมาย ซึ่งรวมถึงอุโมงค์และแหล่งผลิตอาวุธของกลุ่มฮามาส
การโจมตีของอิสราเอลเป็นการตอบโต้การโจมตีด้วยจรวดจากเลบานอนไปยังพื้นที่ตอนเหนือของอิสราเอล ซึ่งเจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของกลุ่มฮามาส โดยมีจรวดที่ถูกยิงออกมาจากเลบานอนถึง 34 ลูก ซึ่งในจำนวนนี้ 25 ลูกถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลสกัดไว้ได้ ถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 17 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2549 เมื่ออิสราเอลทำสงครามกับกลุ่มเฮซบอลเลาะห์
นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวหลังการประชุมรัฐมนตรีด้านความมั่นคงว่า การตอบโต้กลับของอิสาเอลในคืนนี้และหลังจากนี้ จะทำให้ศัตรูของเราต้องชดใช้อย่างหนัก
แม้เนทันยาฮูจะกล่าวโทษกลุ่มฮามาสว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีในวันที่ 6 เมษายน โดยการโจมตีดังกล่าวมีขึ้นขณะที่นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ หัวหน้ากลุ่มฮามาสกำลังอยู่ระหว่างเยือนเลบานอน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงอย่างนายทาเมียร์ เฮย์แมน อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหารของอิสราเอลทวีตว่า มันไม่ใช่การยิงของเฮซบอลเลาะห์ แต่ยากที่จะเชื่อว่าเฮซบอลเลาะห์ไม่รู้เรื่องนี้
ขณะที่นายนาจิบ มิคาติ นายกรัฐมนตรีเลบานอน ออกแถลงการณ์ประณามปฏิบัติการทางทหารใดๆ ต่อดินแดนของเลบานอนที่ถือว่าเป็นการคุกคามเสถียรภาพ แต่ยังไม่มีแถลงการณ์หรือท่าทีทางการใดๆ จากเฮซบอลเลาะห์ หลังจากที่ในวันพฤหัสบดี นายฮาเชม ซาฟิดดีน เจ้าหน้าที่อาวุโสของเอซบอลเลาะห์ กล่าวว่า การละเมิดใดๆ ต่อมัสยิดอัล-อักซอจะทำให้ทั้งภูมิภาคลุกเป็นไฟ
ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐออกมาประณามการยิงจรวดจากเลบานอนและจากการโจมตีก่อนหน้านี้จากฉนวนกาซา พร้อมทั้งย้ำว่า อิสราเอลมีสิทธิที่จะป้องกันตนเอง
ที่มา : https://www.matichon.co.th/
บทความที่น่าสนใจ
- “อิสราเอล-ปาเลสไตน์” แลกหมัดดุเดือด ตายแล้ว 22 ราย ภายในสองวัน
- นายกอิสราเอล เอาใจมุสลิมจะจัดบินตรงไปทำฮัจญ์
- สหรัฐฯสัญญาจะพัฒนาสัมพันธ์กับปาเลสไตน์ พร้อมช่วยกาซาสร้างเมือง
- ศึกรอบใหม่ “อิสราเอล-ปาเลสไตน์” ยังระอุ เสียชีวิตแล้วมากกว่า 30 ราย
- “เยรูซาเลม” ลุกเป็นไฟ เปิดแผนสันติภาพตะวันออกกลางฉบับ “ทำเพื่อชาติยิว”
