องค์การความร่วมมืออิสลาม ฟ้องเมียนมาต่อศาลโลก ในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจา รวมทั้งยื่นคำร้อง
57ประเทศมุสลิมฟ้อง 'เมียนมา' ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮีนจา
องค์การความร่วมมืออิสลาม ฟ้องเมียนมาต่อศาลโลก ในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจา รวมทั้งยื่นคำร้องให้ศาลโลกมีมาตรการชั่วคราวให้เมียนมายุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยทันที
- โรฮิงญานับพันคน ตกลงอาศัยบนเกาะเล็กๆ ของบังกลาเทศ
- บีบีซี แฉทหารพม่าไถกลบหมู่บ้านชาวมุสลิมโรฮิงญา เปลี่ยนเป็นค่ายทหาร
- หดหู่! เผยภาพดาวเทียม หมู่บ้านโรฮิงญา ถูกสร้างทับสถานีตำรวจ
- นศ.สาวโดนสั่งพักเรียน เพราะเป็น“โรฮิงยา”
อาบูบาคาร์ มารี แทมบาโด อัยการสูงสุดและรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของแกมเบีย ในนามขององค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ซึ่งมีประเทศมุสลิม 57 ประเทศเป็นสมาชิก ยื่นฟ้องรัฐบาลเมียนมาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก ในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจา
ในคำฟ้องระบุว่า เมียนมาได้สังหาร ทำร้ายร่างกายและจิตใจ สร้างเงื่อนไขที่ทำให้เกิดการทำลายล้าง ออกมาตรการคุมกำเนิด รวมทั้งบีบบังคับให้ชาวโรฮีนจาอพยพย้ายถิ่น
ซึ่งล้วนเป็นพฤติกรรมของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เนื่องจากตั้งใจทำลายชาวโรฮีนจาไม่ว่าจะทั้งกลุ่มหรือบางส่วน ทั้งยังมีคำร้องขอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศออกมาตรการชั่วคราวสั่งให้เมียนมายุติพฤติกรรมดังกล่าวโดยทันที
ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้วศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ซึ่งปกติรับพิจารณาคดีอาชญากรรมสงคราม ได้เปิดการสอบสวนเบื้องต้นเกี่ยวกับการกวาดล้างชาวโรฮีนจาของเมียนมา
แต่เนื่องจากเมียนมาไม่ได้เป็นสมาชิกของ ICC ทำให้การดำเนินคดีค่อนข้างซับซ้อนและจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่แล้วองค์การสหประชาชาติยังเตือนว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจาที่ยังอาศัยอยู่ในเมียนมาอีกครั้ง
ทั้งนี้ จากรายงานขององค์การสหประชาชาติ ความขัดแย้งระหว่างทางการเมียนมากับชาวโรฮีนจาเริ่มปะทุขึ้นช่วงเดือน ส.ค. 2017 เมื่อกลุ่มชาวโรฮีนจาโจมตีป้อมตำรวจในเมียนมาและสังหารเจ้าหน้าที่ไป 7 นาย ทางการเมียนมาจึงตอบโต้ด้วยการบุกเผาหมู่บ้าน โจมตี รวมทั้งฆ่าและข่มขืนชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ ส่งผลให้ชาวโรฮีนจากว่า 700,000 คนต้องหนีไปยังบังกลาเทศ
ที่มา: www.posttoday.com