เจ้าหน้าที่ยื่นขอต่อศาลให้ออกหมายจับพระวีระธุภายใต้กฎหมายมาตรา 124(a) โดยกฎหมายดังกล่าวห้ามไม่ให้มีการสร้าวความเกลียดชัง
โฆษกตำรวจเมียนมา แถลงเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมาระบุว่า ตำรวจเมียนมาได้ออกหมายจับพระนักเคลื่อนไหว “วีระธุ” หรือพระสงฆ์ผู้ได้รับฉายาว่า “บินลาเดนศาสนาพุทธ” ผลจากพฤติกรรมสร้างความเกลียดชังอิสลาม โดยเฉพาะชาวมุสลิมโรฮีนจา
ตำรวจเมียนมาระบุว่า เจ้าหน้าที่ยื่นขอต่อศาลให้ออกหมายจับพระวีระธุภายใต้กฎหมายมาตรา 124(a) โดยกฎหมายดังกล่าวห้ามไม่ให้มีการสร้าวความเกลียดชัง หรือ ดูถูกเหยียดหยาม หรือ ยัวยุให้ไม่พอใจกับรัฐบาล โดยกฎหมายดังกล่าวกำหนดโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี อย่างไรก็ตามยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับที่อยู่ของพระวีระธุ แต่อย่างใด
พระวีระธุ ผู้ที่มีวัดประจำอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ เคยขึ้นปกนิตยสารไทม์ในหัวข้อ “The Face of Buddhist Terror” โดยพระวีระธุ เป็นพระสงฆ์ที่เป็นแกนนำต่อต้านชาวมุสลิมในเมียนมา โดยเฉพาะมุสลิมชาวโรฮีนจา ในรัฐยะไข่ โดยเรียกคนกลุ่มนี้ว่า “เบงกาลี” และตราหน้าว่าเป็นกลุ่มคนที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย
พระวีระธุ เคยเรียกร้องให้มีการบอยคอตธุรกิจของชาวมุสลิม และเรียกร้องให้ออกกฎห้ามไม่ให้ชาวพุทธแต่งงานกับชาวมุสลิม อย่างไรก็ตามแนวคิดดังกล่าวส่งผลให้คณะสงฆ์ในประเทศมีมติห้ามไม่ให้พระวีระธุ ให้ความเห็นใดๆกับสาธารณะอีกต่อไป อย่างไรก็ตามพระวีระธุ ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งหลังจากกำหนดแบนสิ้นสุดลงเมื่อเดือนมีนาคม 2018
ทั้งนี้เฟซบุ๊กเคยแบนแอคเคาท์ของพระวีระธุออกจากระบบเมื่อเดือนมกราคมปี 2018 หลังพระวีระธุ โพสต์ข้อความยั่วยุให้เกิดความเกลียดชังชาวโรฮีนจา ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนมองว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความเกลียดชังชาวโรฮีนจามากขึ้น กลายเป็นต้นตอของปฏิบัติการกวาดล้างชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ ส่งผลให้เกิดวิกฤตผู้อพยพไปยังบังกลาเทศจำนวนมากถึง 740,000 คน
- สื่อดังตั้งคำถาม “พระ” สร้างความแตกแยก ไม่มีการดำเนินการ
- ว่าจะไม่สงสัย! 'ชัย ราชวัตร' โพสต์สั้นๆสะกิดต่อม 'บังเอิญ ทักษิณบินมาพม่า แล้วพระก็บังเอิญ...มากดดัน'
- 'พระวีระธู' ผู้นำปลุกปั่นให้ชาวพุทธเกลียดชังมุสลิม เข้ารับรางวัลที่วัดธรรมกาย
- พระสงค์หัวรุนแรงเมียนมาร์ โจมตีผู้แทนยูเอ็นว่าเป็น 'โสเภณี'
- รู้จัก พระวีระสุ ตามที่นิตยสารอ้างถึง เค้าเป็นใคร มีผลงานอะไร
- พระสงค์หัวรุนแรงเมียนมาร์ โจมตีผู้แทนยูเอ็นว่าเป็น 'โสเภณี'
- บาห์เรนเตือนพลเมือง ออกจากอิหร่าน-อิรัก “โดยด่วน”
ที่มา: www.matichon.co.th