กลายเป็นประเด็นที่เป็นที่ถกเถียงเป็นอย่างมากสำหรับประตูของ มาร์คัส แรชฟอร์ด
กลายเป็นประเด็นที่เป็นที่ถกเถียงเป็นอย่างมากสำหรับประตูของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ส่งให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายขึ้นนำ ลิเวอร์พูล 1-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา
รายการที่เกี่ยวข้อง:
ผีแดงทรุดหนัก! “เด เคอา”เดี้ยงอีก ส่อชวดเฝ้าเสาแดงเดือด
“ผี” ยังไงก็ยังเป็นผี “คล็อปป์” ไม่ประมาทซัดแดงเดือด
8 เหตุผล หงส์แดง จ่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบม้วนเดียวจบ
หงส์แดงไร้ซาล่าเกือบพ่าย พับสนามบุกแหลกไล่เจ๊าผี 1-1
โดยจังหวะดังกล่าวเกิดขึ้นในนาทีที่ 36 วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ไปแย่งบอลจาก ดิว็อค โอริกี้ จากทางด้านหลังก่อนที่บอลจะถูกเปิดขึ้นหน้าและนำไปสู่ประตูขึ้นนำของเจ้าถิ่น อย่างไรก็ตามผู้เล่นของลิเวอร์พูล พยายามประท้วงเพื่อขอให้ มาร์ติน แอตกินสัน กรรมการตัดสินใจดู VAR เพื่อตัดสินใหม่ แต่ท้ายสุดก็ไม่เป็นผล
ซึ่งล่าสุด สกายสปอร์ต สื่อดังของอังกฤษ ได้บุกไปสอบถามเกี่ยวกับจังหวะดังกล่าวจาก สมาคมผู้ตัดสินแมตช์เกมอาชีพ (Professional Game Match Officials Limited) เพื่อหาข้อสรุปของการตัดสินใจของกรรมการในครั้งนี้
โดยทาง พีจีเอ็มโอแอล อธิบายว่า "ข้อแรก กรรมการในสนามไม่คิดว่ามันเป็นการฟาวล์ และ VAR ก็ได้ทำการตรวจสอบแล้ว มันไม่ได้เป็นการทำหน้าที่ผิดพลาดแต่อย่างใดที่ร้ายแรง"
"ข้อสอง VAR ไม่สามารถเปลี่ยนคำตัดสินได้ มันมีหน้าที่เพียงแค่เสนอความจริงให้กับผู้ตัดสินทราบเท่านั้น ซึ่งในกรณีนี้แม้ทางกรรมการจะติดต่อเข้ามาให้ระบบ VAR ตรวจสอบ แต่ข้อสรุปก็คือไม่มีเหตุผลที่จะต้องยึดประตูดังกล่าวคืนในจังหวะนั้น"
พร้อมกันนี้สื่อเจ้าดังยังเผยต่อว่า ตัวของ มาร์ติน แอตกินสัน ยืนยันหนักแน่นว่าเขาเห็นจังหวะนั้นอย่างชัดเจน และมองว่า วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ไม่ได้ทำฟาวล์แต่อย่างใด ทำให้ทาง VAR ไม่สามารถกลับคำตัดสินได้เนื่องจากมีหน้าที่แค่เสนอภาพช้าให้กรรมการตัดสินใจอีกครั้ง ซึ่งท้ายสุดเจ้าตัวยืนยันคำเดิมว่าไม่ฟาวล์ทำให้ไม่กลับคำตัดสินแต่อย่างใด
สำหรับเกมการแข่งขันนัดนี้ จบลงด้วยผลการเสมอกัน 1-1 โดย อดัม ลัลลาน่า ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ไล่ตามตีเสมอก่อนหมดเวลาแค่ 6 นาที และ "หงส์แดง" ต้องสะดุดเสมอเป็นแกมแรกของฤดูกาล อย่างไรก็ตามยังนำเป็นจ่าฝูงด้วยการมี 25 แต้ม