ศึกแดงเดือด ระหว่างแมนฯยูไนเต็ด ปะทะ ลิเวอร์พูล ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ปรากฏว่าเจ๊ากัน
เกมพรีเมียร์ลีกบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ ศึกแดงเดือด ระหว่างแมนฯยูไนเต็ด ปะทะ ลิเวอร์พูล ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ปรากฏว่าเจ๊ากันไปแบบเข้มข้นด้วยสกอร์ 1-1
นัดนี้แมนฯยู ได้ข่าวดี เมื่อดาบิด เด เคอา เช็กฟิตทันลงเป็นตัวจริงได้ โดยนัดนี้โอเล่ กุนนาร์ โซลชา วางหมากกองหลัง 5 ตัว มารับมือกับแนวรับลิเวอร์พูลโดยเฉพาะ ขณะที่ฝั่งหงส์แดง ได้อลิสซอน นายทวารมือ 1 มายืนเป็นตัวจริง แต่ไม่มีโม ซาลาห์ ที่มีอาการบาดเจ็บอยู่
รายการที่เกี่ยวข้อง :
หงส์ทีมแตก! มาเน่ โวยแหลก ซาลาห์ เห็นแก่ตัว (คลิป)
8 เหตุผล หงส์แดง จ่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบม้วนเดียวจบ
“ผี” ยังไงก็ยังเป็นผี “คล็อปป์” ไม่ประมาทซัดแดงเดือด
รูปเกมในครึ่งแรก เป็นลิเวอร์พูลที่ครองบอลมากกว่า และมีโอกาสยิงไกลทักทายก่อน จากจินี่ ไวจ์นัลดุม แต่บอลไปเข้ามือเด เคอา
นาทีที่ 32 ลิเวอร์พูลมีโอกาสจะแจ้ง เมื่อ มาเน่ จ่ายบอลเข้ากลางให้ ฟีร์มีโน่ปาดยิงด้วยความเร็ว แต่บอลก็เบาไปอีก เข้ามือเด เคอาอีกครั้ง
นาทีที่ 36 แมนฯยู นำ1-0 จากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด แอบอยู่หลังคู่เซ็นเตอร์ของหงส์แดง ก่อนสอดเข้ามายิงโล่งๆผ่านอลิสซอนเข้าประตูไป โดยลูกนี้ นักเตะหงส์แดง พยายามประท้วงว่าผู้ตัดสินควรเป่าฟาวล์โอริกี้ ในจังหวะก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ผู้ตัดสินเช็ก VAR แล้วยังให้ประตูแมนฯยูเหมือนเดิม
นาทีที่ 43 ลิเวอร์พูลน่าจะได้ประตูตีเสมอ 1-1 เมื่อซาดิโอ มาเน่ ยิงเข้าประตูไป แต่พอผู้ตัดสินเช็ก VAR ยืนยันว่าลูกนี้ ไปแฮนด์บอลมาเน่ก่อนแล้ว และปฏิเสธประตู ทำให้ครึ่งแรก แมนฯยูนำ 1-0
ครึ่งหลังลิเวอร์พูลครองบอลได้เยอะขึ้น แต่แผงรับแมนฯยูไนเต็ด ทำหน้าที่ได้ดีมากๆ จนหงส์แดงต้องส่ง อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ อดัม ลัลลาน่าลงมาเปลี่ยนจังหวะในเกมรุก
แต่กลายเป็นแมนฯยู ที่ดูจะวูบวาบกว่า นาทีที่ 82 เฟร็ด ได้ซัดไกลนอกเขตโทษบอลเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว
แต่แล้ว นาทีที่ 85 จากจังหวะที่ไม่มีอะไรเลย บอลครอสด้านข้างของแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน บอลทะลักยาวมาถึงอดัม ลัลลาน่า ที่ยืนโล่งๆเสาสอง แปเข้าไปง่ายๆ ตีเสมอให้หงส์เฉยเลยเป็น 1-1
ท้ายเกม หงส์แดงพับสนามบุกแหลก และเกือบยิงนำ จากลูกยิงไกลของอ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน แต่ถากเสาไปนิดเดียว
ทำให้สุดท้ายจบ 90 นาที ทั้ง 2 ทีมจึงเสมอกันไป 1-1 แบ่งแต้มกันไป ลิเวอร์พูลยังเป็นจ่าฝูงอยู่ แต่เสียสถิติชนะ 100% ไปแล้ว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เกอา,วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ,มาร์กอส โรโฮ,แฮร์รี่ แม็กไกวร์,แอร่อน วาน-บิซซาก้า,แอชลีย์ ยัง,สกอตต์ แม็คโทมิเนย์,เฟร็ด,อันเดรียส เปเรยร่า (แอร่อน วิลเลียมส์ น.93),แดเนียล เจมส์,มาร์คัส แรชฟอร์ด (อ็องโตนี่ มาร์กซียาล น.83)
ลิเวอร์พูล : อลิสซอน เบ็คเกอร์,แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน,เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์,เวอร์จิล ฟาน ไดค์,โจเอล มาติป,จินี่ ไวจ์นัลดุม (นาบี เกอิต้า น.76),ฟาบินโญ่,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (อดัม ลัลลาน่า น.71),ดิว็อค โอริกี้ (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.60),ซาดิโอ มาเน่,โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่