ผู้คนในกรุงลอนดอนราว 800,000 คน และอีกหลายเมืองในยุโรป ออกมาชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์และเรียกร้องให้การหยุดยิงในกาซา
วันเสาร์ ที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์มากกว่า 300,000 คน แต่ฝ่ายผู้จัดให้ตัวเลขเอาไว้ที่ 800,000 คน ออกมาชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์และเรียกร้องให้การหยุดยิงในกาซาท่ามกลางการต่อต้านขัดขวางของกลุ่มขวาจัดตลอดจนนักการเมืองฝ่ายขวา
ขณะที่พวกผู้นำชาติอาหรับและมุสลิมประชุมกันมีมติประณามกองทัพยิวกระทำการป่าเถื่อนในกาซา ทว่าไม่สามารถตกลงกันได้ในการออกมาตรการแซงก์ชั่นทางเศรษฐกิจและการเมืองกับอิสราเอล
ผู้เข้าร่วมชุมนุมจำนวนมากโบกธงปาเลสไตน์สีดำ, แดง, ขาว, และเขียว บางคนร้องตะโกนว่า “จากแม่น้ำจนถึงทะเล ปาเลสไตน์จะต้องเป็นอิสระ”
ซึ่งเป็นคำขวัญปลุกใจที่ชาวยิวจำนวนมากมองว่าเป็นการต่อต้านยิวและเรียกร้องให้กำจัดลบทิ้งอิสราเอล
ส่วนคนอื่นๆ ชูป้ายเขียนข้อความว่า "ปลดปล่อยปาเลสไตน์" “อิสราเอลเป็นรัฐก่อการร้าย” และ "หยุดสังหารหมู่" รวมไปถึง "หยุดทิ้งบอมบ์ถล่มกาซา"
นับตั้งแต่พวกฮามาสบุกจู่โจมทางภาคใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ได้เรียกเสียงสนับสนุนและความเห็นอกเห็นใจอย่างคับคั่งต่ออิสราเอล จากบรรดารัฐบาลตะวันตก ซึ่งก็รวมถึงสหราชอาณาจักรและพลเมืองจำนวนมาก
แต่เมื่ออิสราเอลดำเนินการตอบโต้ทางทหารด้วยการถล่มโจมตีกาซา รวมทั้งใช้มาตรการปิดล้อมและสั่งอพยพผู้คนเรือนล้าน ก็โหมกระพือความเดือดดาล โดยมีการชุมนุมในลอนดอนแทบทุกสัปดาห์ เรียกร้องให้มีการหยุดยิง
สำหรับการชุมนุมเดินขบวนในวันเสาร์ แม้ดำเนินไปอย่างสงบเป็นส่วนใหญ่ แต่ตำรวจก็รายงานว่าเข้าจับกุมผู้คนไปกว่า 120 คน ขณะพยายามหาทางหยุดยั้งพวกผู้ประท้วงขวาจัดที่ต่อต้านการชุมนุมครั้งนี้ ไม่ให้ซุ่มโจมตีขบวนใหญ่
มีรายงานว่าเกิดการปะทะกันประปรายระหว่างตำรวจกับพวกกลุ่มขวาจัดซึ่งรวมตัวกันเพื่อประท้วงคัดค้านการเดินขบวนหนุนปาเลสไตน์ ที่เกิดขึ้นมาใน “วันสงบศึก” 11 พฤศจิกายน
ซึ่งเป็นวันครบรอบปีการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ 1 และสหราชอาณาจักรใช้เป็นวันรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากสงคราม
นอกจากนั้น ยังเกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์ โดยตำรวจเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ว่าพวกผู้ชุมนุมบางส่วนสวมหน้ากากและยิงพลุไฟ ดังนั้นจึงถูกควบคุมตัวและทำการค้นตัว
ขณะที่ ริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ออกคำแถลงประณามการใช้ความรุนแรงของกลุ่มขวาจัดที่พยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจ ณ บริเวณ อนุสาวรีย์เซโนทาฟ ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ในใจกลางกรุงลอนดอนเพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิตในสงคราม
รวมทั้งโยนขวดใส่ตำรวจไม่หยุดยั้ง ขณะเดียวกันเขาก็ประณามพวกเข้าข้างกลุ่มฮามาส ซึ่งเข้าร่วมการชุมนุมใหญ่ ที่มีการตะโกนร้องเพลงต่อต้านยิว และชูป้ายข้อความและสวมเสื้อสกรีนสนับสนุนฮามาส ที่สหราชอาณาจักรถือเป็นองค์การก่อการร้าย
อันที่จริง ความตึงเครียดได้พุ่งสูงตั้งแต่ก่อนหน้าการชุมนุมเดินขบวนเริ่มขึ้นในวันเสาร์ ซึ่งกลายเป็นการชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์และเรียกร้องหยุดยิงในฉนวนกาซาครั้งใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักรเท่าที่เคยมีมา
สืบเนื่องจาก ซูเอลลา บราเวอร์แมน รัฐมนตรีมหาดไทย ประณามการชุมนุมนี้ว่าจะเป็นเดินขบวนของฝูงม็อบที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
อย่างไรก็ตาม ตำรวจนครบาลลอนดอน ปฏิเสธคำขอของคณะรัฐมนตรีที่เรียกร้องให้สั่งระงับกิจกรรมครั้งนี้
โดยบอกว่าไม่พบสิ่งบ่งชี้ใดๆ ที่จะเกิดความรุนแรงร้ายแรง จุดยืนเช่นนี้ทำให้ความสัมพันธ์กับรัฐบาลอยู่ในภาวะตึงเครียด และซูแน็ก เรียกร้องอีกครั้งให้ใช้แนวทางที่แข็งกร้าวกว่าเดิมในการรับมือการชุมนุม
"ทุกความผิดทางอาญาต้องเผชิญกับการดำเนินการทางกฎหมายอย่างเต็มที่และรวดเร็ว" เขาระบุในคำแถลงที่เผยแพร่ในวันเสาร์ (11)
"นั่นคือสิ่งที่ผมบอกกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลไปเมื่อวันพุธ มันคือความรับผิดชอบของพวกเขาและมันคือสิ่งที่ผมคาดหวัง"
ขณะที่ ซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีลอนดอน และฮัมซา ยูซาฟ นายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์ กล่าวตำหนิ บราเวอร์แมน ว่าโหมกระพือความตึงเครียด
และปลุกใจพวกขวาจัด ด้วยการกล่าวหาตำรวจเลือกข้างม็อบฝักใฝ่ปาเลสไตน์ ตั้งแต่ก่อนหน้าการเดินขบวน
บทความที่น่าสนใจ
- สหรัฐฯ ออกโรงปกป้องอิสราเอล สั่งเรือพิฆาตยิงสกัดโดรน-มิสไซล์จากเยเมน
- สหรัฐชาติเดียวขวางโลก ค้านหยุดยิงอิสราเอล-ปาเลสไตน์
- ‘ดินแดนปาเลสไตน์’ อดีตเมืองท่าร่ำรวยน้ำมัน ที่ถูกสงครามลิดรอนการเติบโต
- สำนักจุฬาฯ ชวนพี่น้องมุสลิม ละหมาดฮายัตขอพรยุติสงครามอิสราเอล
- “อิสราเอล-ปาเลสไตน์” แลกหมัดดุเดือด ตายแล้ว 22 ราย ภายในสองวัน
- อิสราเอลลั่น ห้ามอิหร่านมีนิวเคลียร์-ปาเลสไตน์อย่าขวางดีลกับอาหรับ
- 'เศรษฐา' จ่อหารือซาอุฯ เปิดน่านฟ้าบินผ่าน ช่วยคนไทยในอิสราเอล
- โรนัลโด มอบเงินเกือบ 50 ล้านแก่ชาวปาเลสไตน์ ช่วงเดือนรอมฎอน
- ขอโทษแล้ว! “เบลลา ฮาดิด” โดนวิจารณ์หนักหลังโพสต์สตอรี่หมิ่นซาอุฯ-เอมิเรตส์
- สังหารหมู่! ระเบิดโรงพยาบาลฉนวนกาซา ดับอย่างน้อยครึ่งพัน ฮามาสชี้อาชญากรรมสงคราม