ลูกชายชาวจีนยิงแม่เจ้าของโรงงานพลาสติก ดับคาคอนโดย่านสุขุมวิท อ้างทนรับแรงกดดันไม่ไหว
เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 65 สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งเหตุจากผู้ใต้บังคับบัญชาว่าเกิดเหตุยิงกันตายมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่ภายในห้องเลขที่ 179/275 ชั้น 9 คอนโดหรูแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 39 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. จึงพร้อมด้วยแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐานและอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
ในห้องที่เกิดเหตุพบศพ นางซิง อายุ 65 ปี เชื้อชาติจีน สัญชาติไทย ถูกยิงหน้าอก 1 นัด โดยทราบว่าผู้ตายอยู่เมืองไทยมานานจนได้รับสัญชาติไทย ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบผู้ก่อเหตุคือลูกชายของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายเควิน อายุ 41 ปี เชื้อชาติจีน สัญชาติออสเตรเลีย
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายเควิน ให้การรับสารภาพว่า มีความกดดันจากการถูกมารดาซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับโรงงานพลาสติกอยู่ที่อำเภอสามโคก จ.ปทุมธานี โดยมารดาจะเป็นผู้คุมทุกอย่างภายในโรงงาน ทำให้นายเควินรู้สึกกดดัน ประกอบกับก่อนก่อเหตุได้มีการดื่มสุรามา ทำให้ใช้ปืนยิงดังกล่าว
โดยหลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน เจ้าหน้าที่ใช้การเจรจาเกลี้ยกล่อม โดยยอมปล่อยภรรยาและลูกชาย อายุ 7 ขวบ และลูกสาว อายุ 2 ขวบ ให้แก่เจ้าหน้าที่ ตำรวจจึงคุมตัวพร้อมตรวจยึดอาวุธปืนโคลต์ขนาด 9 มม. กับอาวุธปืนยาวบีบีกันได้อีก 4 กระบอก จึงทำการตรวจยึดมาไว้เป็นของกลาง และมอบหมายให้ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ทำการสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างควบคุมตัวนายเควินมาสอบสวนที่ห้องสืบสวน สน.ทองหล่อ นายเควินยังคงมีท่าทีไม่สลดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการยิ้มให้แก่สื่อมวลชนที่มารออยู่บริเวณหน้าห้องฝ่ายสืบสวน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะคุมตัวเข้าไปเพื่อทำการสอบสวนอย่างละเอียด ถึงข้อมูลส่วนตัวและเป็นสาเหตุของการก่อเหตุที่แท้จริงต่อไป
ต่อมาที่ สน.ทองหล่อ เจ้าหน้าที่นำร่าง นางหลิว มาพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนที่เพื่อนร่วมงานจะเดินทางมาดูศพ พร้อมเปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นอุปนายกสมาคมการค้าและอุตสาหกรรมไทย เป็นคนที่มีจิตใจดี ขยัน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนร่วมงาน เป็นเจ้าของบริษัทผลิตเม็ดพลาสติก
จากที่ทราบคือ นายเควิน เป็นบุตรชายคนเดียวของนางหลิว ในการทำธุรกิจของเจ้าตัวจะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และจะให้ลูกชายสืบทอดกิจการต่อ แต่ลูกชายมีพฤติกรรมชอบดื่มสุรา ทำให้มีปากเสียงบ่อยครั้ง แต่จะเป็นชนวนเหตุให้ต้องลงมือยิงหรือไม่นั้นก็ไม่ทราบ และทุกคนก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์นี้
ที่มา Sanook
ข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง