จีนออกกฎระเบียบใหม่ อนุญาตเฉพาะมุสลิมที่ “มีความรักชาติ” ให้ไปทำฮัจญ์ได้ แต่สำหรับผู้ไม่ได้ไปจะถูกมองว่าเป็นอาชญากร
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: จีนอนุมัติเฉพาะมุสลิมที่ “มีความรักชาติ” ไปทำฮัจญ์ได้ กฎนี้มีอะไรแอบแฝงหรือไม่?
จีนออกกฎระเบียบใหม่ อนุญาตเฉพาะมุสลิมที่ “มีความรักชาติ” ให้ไปทำฮัจญ์ได้ แต่สำหรับผู้ไม่ได้ไปจะถูกมองว่าเป็นอาชญากร...
ฝ่ายบริหารกิจการศาสนาแห่งรัฐ (ซึ่งยังคงมีอยู่ แม้กิจกรรมบางอย่างจะดำเนินการโดยแนวร่วม) ได้ออก “มาตรการการบริหารกิจการฮัจญ์อิสลาม” ประจำปี 2020 ซึ่งมีทั้งหมด 42 ข้อ และจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม ที่จะถึงนี้
บางส่วนของมาตรการยังคงเป็นบทบัญญัติเดิมที่มีผลบังคับใช้ อาทิ การกำหนดโควตาระดับท้องถิ่นและภูมิภาค ซึ่งกำหนดรายละเอียดจำกัดจำนวนผู้แสวงบุญชาวจีนที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปมักกะฮ์ / ผู้แสวงบุญทุกคนควรอยู่ภายใต้การจัดการของสมาคมอิสลามแห่งประเทศจีน ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 ขององค์กรศาสนาที่ได้รับการรับรอง / อนุญาตให้ไปทำฮัจญ์เฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยไปเท่านั้น ซึ่งหมายถึงว่า ประชากรชาวจีนมุสลิมทุกคนจะได้รับอนุญาตให้ไปทำฮัจญ์ได้เพียงคนละ 1 ครั้ง ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับข้อกำหนดของอิสลาม
การไปทำฮัจญ์โดยไม่ผ่านสมาคมอิสลาม ฯ ถือเป็นความผิดทางอาญา แต่ผู้ที่เต็มใจให้สมาคมอิสลามจัดการเรื่องการไปทำฮัจญ์ก็ไม่ใช่จะทำกันได้ง่าย ๆ พวกเขาต้องลงทะเบียนผ่านเว็ปไซท์ฮัจญ์ และตั้งความหวังว่าจะได้อยู่ในโควตาที่จำกัด ของผู้แสวงบุญที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ และไม่เพียงแต่ตัวผู้ต้องการไปแสวงบุญเท่านั้น แต่รวมถึงญาติ ๆ ของพวกเขา จะต้องจัดหาการรับรองด้านค่าใช้จ่าย ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการป้องกันมิให้มุสลิมจีน ใช้การเดินทางไปฮัจญ์เป็นหนทางในการหลบหนีไปประเทศอื่น
ข้อ 12.1 ของมาตรการดังกล่าวยังระบุว่า ทางการมีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบการใช้ชีวิตทางศาสนาและสังคมของผู้ยื่นขอไปทำฮัจญ์ และทางการมีสิทธิ์ที่จะอนุญาตให้ไปทำฮัจญ์เฉพาะผู้ที่ “รักชาติและมีความประพฤติดี” เท่านั้น ข้อบังคับนี้ทำให้การจัดการฮัจญ์กลายเป็นเครื่องมือในการควบคุม และเฝ้าระวังอีกอย่างหนึ่ง
การมีจำนวนผู้ไปทำฮัจญ์แม้จะจำกัด จะเป็นข้อที่ทางการใช้อ้างได้ว่า ประชากรแห่งอิสลามในจีนได้รับเสรีภาพในการนับถือศาสนา แต่ชาวจีนมุสลิมส่วนมากเลือกที่จะไม่ยื่นขออนุญาต เพราะจะเป็นการเปิดโอกาสให้ทางการเข้ามาสืบสวนว่าพวกเขามีความรักชาติแค่ไหน และภักดีต่อพรรคมากเพียงใด
ในขณะเดียวกัน บรรดาผู้แสวงบุญที่ไม่ได้ไปอย่างเป็นทางการตามที่กฎหมายกำหนด ย่อมรู้ดีว่า พวกเขาจะถูกมองว่า เป็นอาชญากรและถูกลงโทษอย่างรุนแรง
ที่มา: www.bitterwinter.org