ลูกสาวเผยเรื่องช็อก ทำพ่อป่วย10ปี รักษายังไงก็ไม่หาย ขุดพบไสยศาสตร์ มีคนเล่นของใส่ฝังหน้าบ้าน อึ้งหนัก มีทั้งตะปูโลงศพ กระดูกผีตายโหง ผ้าเขียนแช่ง ชาวเน็ตขนลุกตาม ๆ กัน
ลูกสาวช็อก! เจอเล่นของใส่ ตะปูโลงศพ ผ้าเขียนแช่ง ทำพ่อป่วย10ปีไม่หาย
ลูกสาวเผยเรื่องช็อก ทำพ่อป่วย10ปี รักษายังไงก็ไม่หาย ขุดพบไสยศาสตร์ มีคนเล่นของใส่ฝังหน้าบ้าน อึ้งหนัก มีทั้งตะปูโลงศพ กระดูกผีตายโหง ผ้าเขียนแช่ง ชาวเน็ตขนลุกตาม ๆ กัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nad Hayeemareh
จาก เฟซบุ๊ก Nad Hayeemareh หญิงสาวรายหนึ่งที่ครอบครัวนับถือศาสนาอิสลาม บ้านอยู่ใน จ.ยะลา ซึ่งไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ แต่กลับต้องมาเจอเล่นของใส่ โดนของฝังอยู่หน้าบ้านนานนับ 10 ปี ทำให้พ่อเธอป่วยอย่างต่อเนื่อง รักษายังไงก็ไม่หาย กระทั่งมีหมอมาทักให้เจาะพื้นหน้าบ้าน จนเจอตะปูตอกโลงศพ กระดูกผีตายโหง และผ้าสีแดงเขียนตัวหนังสือแช่งต่าง ๆ เห็นแล้วขนลุกอย่างมาก
ซึ่งเจ้าของเรื่อง เล่าอีกว่า ทางครอบครัวเราไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนี้มาก่อน ขณะที่พ่อก็ป่วยมานานหลายปี จากคนแข็งแรง ฉลาด และเก่งทุกด้านโดยเฉพาะการงาน ก็กลับล้มป่วยจนเป็นอัมพฤกษ์ ทุกอย่างยิ่งแย่ลง
เรื่องการรักษาพ่อ ครอบครัวเลือกโรงพยาบาลดี ๆ คลินิกที่เขาว่าดี หรือแม้แต่ในกรุงเทพฯ ก็เคยพาไปรักษา แต่ไม่ดีขึ้นเลย อาการพ่อไม่เหมือนคนปกติ นิสัยเริ่มเหมือนเด็กขึ้นทุกวัน อยากร้องให้ก็ร้อง
กระทั่งวันหนึ่ง ญาติผู้ใหญ่พาหมอ ท่านหนึ่งมาที่บ้าน ซึ่งแก่มากแล้ว บ้านเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน พอมาถึงหมอนั่งทำพิธีและเดินไปชี้จุดให้ขุดเจาะพื้นหน้าบ้าน ญาติกับพี่สาวก็ขุด ๆ แต่ไม่เจออะไร ครอบครัวเราก็คิดว่า ยังไงก็คงไม่มีอะไรอยู่แล้ว
กระทั่งหมอบอกว่า ต้องให้ผู้ที่ถูกกระทำเอามือไปงมเอง แม่จึงทำตาม หมอให้แม่ถือเหล็กในมือแล้วยื่นลงไปกลางหลุม จู่ ๆ ของบางอย่างผุดขึ้นมาติดมือแม่จนแม่ตกใจ
พอเอาขึ้นมาพบว่า ของถูกห่อด้วยผ้าสีดำ ลนด้วยเทียนหลายชั้นแล้วพันด้วยด้าย กว่าจะแกะออกแต่ละชิ้นนานมาก ข้างในมีตะปูที่มัดด้วยด้ายอย่างหนา กระดูกคนตาย 6 ชิ้น และผ้าเขียนด้วยตัวอักษรไม่ค่อยชัดมากนัก เพราะลนด้วยเทียน ซึ่งหมอบอกว่าถ้าอยากเห็นชัด ๆ ให้เอาไฟแช็กลน ตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ข้อความที่พบ อาทิ
- 2 ผัวเมีย ทำงานไม่ขึ้น ปิด
- ห้ามทำงาน ปิด
- ปิดไม่ให้ขึ้น X ตาย
- วัดช้างให้ใต้
.....................
อัสตัฆฟิรุลลอฮิลละซี ลาอิลาหะอิลลาฮุวัลหัยยุลก็
ความหมาย: "ฉันขออภัยโทษจากอัลลอฮฺ ผู้ซึ่งไม่มีพระเจ้าอื่นใดน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nad Hayeemareh
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nad Hayeemareh
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nad Hayeemareh
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nad Hayeemareh
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nad Hayeemareh
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nad Hayeemareh
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nad Hayeemareh
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nad Hayeemareh
ที่มา: Nad Hayeemareh , kapook.com
- มาเลย์ใช้ไสยศาสตร์เข้าช่วย เด็กหญิงหายปริศนากลางป่า
- ฝังแล้ว! ศพทหารพรานเหยื่อระเบิดโจรใต้
- ครู-นร.มุสลิมสตูล แถลงการณ์ ไม่ทนพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบัน
- สุดประทับใจ ลูกน้อยวัย 5 เดือนกลับสู่อ้อมอกแม่แล้ว
...............
ศาสนาอิสลามสอนว่า ญิน ไสยศาสตร์ และพลังหรืออิทธิพลต่างๆของไสยศาสตร์นั้นมีอยู่จริง มีหลักฐานคำสอนมากมายจากคัมภีร์อัลกุรอานที่พูดถึงเรื่องนี้ เช่น
ความว่า: "และจงรำลึกเมื่อเราได้ให้ญินจำนวนหนึ่งมุ่งไปยังเจ้า (มุฮัมหมัด) เพื่อฟังอัลกุรอาน…" (อัลอะหฺก็อฟ 46 : 29)
ท่านอับดุลลอฮ บินมัสอูด (ขออัลลอฮทรงพอพระทัย) สหายของท่านนบีมุฮัมหมัด (ขอการสถาพรและความศานติจงประสบแด่ท่าน) เล่าว่า
“คืนหนึ่งเราอยู่กับท่านนบี แต่แล้วท่านก็หายตัวไป พวกเราตามหาท่านทั้งที่บริเวณหุบเขาและเนินเขา แต่ก็ไม่พบท่าน จนเราคิดว่าท่านถูกฆ่าตายไปแล้ว เรานอนหลับไปโดยมีความวิตกกังวลใจเป็นอย่างมาก เมื่อถึงตอนเช้า ท่านนบีก็ปรากฏตัวมาจากทิศของถ้ำฮิรออ์ พวกเราถามท่านว่า ‘ท่านครับ เมื่อคืนพวกเราพรากจากท่าน เราตามหาท่าน แต่ก็ไม่พบท่าน กระทั่งเรานอนหลับไปด้วยความกังวลใจอย่างมาก’ ท่านนบีตอบว่า ‘ตัวแทนจากหมู่ญินตนหนึ่งได้มาหาฉัน และฉันก็ไปกับเขาเพื่ออ่านโองการอัลกุรอานให้แก่พวกเขา’”
หรือในตอนหนึ่งของอัลกุรอาน อัลลอฮทรงตรัสไว้ว่า
ความว่า: "และพวกเขาได้ปฏิบัติตามสิ่งที่บรรดาชัยฏอนในสมัยกษัตย์สุลัยมานอ่านให้ฟัง และสุลัยมานมิได้ปฏิเสธศรัทธาแต่อย่างใด แต่ทว่าชัยฏอนเหล่านั้นต่างหากที่ปฏิเสธศรัทธา โดยสอนประชาชนซึ่งวิชาไสยศาสตร์และสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่มะลาอิกะฮฺทั้งสองคือ ฮารูตและมารูต ณ เมืองบาบิโลน และเขาทั้งสองจะไม่สอนให้แก่ผู้ใดนอกจากจะกล่าวว่า แท้จริงเราเป็นผู้ทดสอบเท่านั้น ฉะนั้นท่านจงอย่าปฏิเสธการศรัทธาเลย แล้วเขาเหล่านั้นก็ศึกษาจากทั้งสอง ซึ่งสิ่งที่พวกเขาจะใช้มันสร้างความแตกแยกระหว่างคนๆหนึ่งกับภรรยาของเขา และพวกเขาไม่อาจทำให้สิ่งนั้น(คือ วิชาไสยศาสตร์)เป็นอันตรายแก่ผู้ใดได้ นอกจากด้วยการอนุมัติของอัลลอฮฺเท่านั้น และพวกเขาก็เรียนสิ่งที่เป็นโทษ และมิได้เป็นคุณแก่ตัวพวกเขาเอง และแท้จริงนั้นพวกเขารู้ว่า แน่นอนผู้ที่ซื้อมันไว้นั้น ในวันปรโลกย่อมไม่มีส่วนได้ใดๆ และแน่นอนว่า เป็นสิ่งที่ชั่วช้าจริง ๆ ที่พวกเขาขายตัวของพวกเขาเองด้วยสิ่งนั้น หากพวกเขารู้" (อัลบะเกาะเราะฮฺ 2 : 102)
การอ้างว่า ไสยศาสตร์เป็นเรื่องเหลวไหล หรือเป็นเพียงจินตนาการที่คนสร้างขึ้นมาเองนั้น ไม่อาจหักล้างความจริงที่ว่า ไสยศาสตร์มีอยู่จริงๆ และอิทธิพลของมันก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตมนุษย์จริงๆ เป็นวิชาที่สามารถถ่ายทอดและศึกษาต่อกันได้ อิทธิพลของมันอาจส่งผลทำให้คนสองคนเกิดเสน่หาหลงรักกัน หรืออาจทำให้โกรธเคืองจนเกลียดชังกันก็ได้ สามีภรรยาต้องหย่าร้างตัดขาดจากกัน บางคนอาจเจ็บไข้ได้ป่วย และในบางรายอาจถึงขั้นสิ้นชีวิต
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทและระดับความรุนแรงของไสยศาสตร์ที่นักไสยศาสตร์ทำขึ้นมา
หากบางสิ่งบางอย่างทำให้ชีวิตหนึ่งตายลงได้ เช่น ยาพิษหรืออาวุธ และบางอย่างทำให้ป่วยไข้ได้ เช่น โรคทั้งหลาย และบางอย่างก็สามารถรักษาอาการป่วยได้ เช่น ตัวยาและการรักษารูปแบบต่างๆ ไสยศาสตร์ก็ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลแต่อย่างใด เพียงแต่มันอยู่ในรูปแบบที่คนส่วนใหญ่อาจไม่เข้าใจและไม่มีความรู้เกี่ยวกับมันเท่านั้นเอง
การทำไสยศาสตร์ทำให้มนุษย์และญินต้องฝ่าฝืนกฎธรรมชาติที่พระเจ้าทรงกำหนดเอาไว้ อีกทั้งยังเป็นอันตรายและสร้างความเสียหายใหญ่หลวง อิสลามจึงห้ามศึกษาเรียนรู้และทำไสยศาสตร์ และถือว่ามันเป็นหนึ่งในภยันตราย 7 ประการที่ท่านเราะซูลกำชับให้หลีกห่าง เป็นบาปใหญ่ที่อาจนำไปสู่การปฏิเสธศรัทธาและตกศาสนาได้
อ้างอิงจาก : whitechannel.tv