ฝังศพทหารพราน จากเหตุคนร้ายลอบระเบิดทหารพรานปัตตานี ขณะที่กำลังลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยครู พ่อเผยภูมิใจในตัวลูกที่ทำหน้าที่ทหารจนวาระสุดท้าย
ฝังแล้ว! ศพทหารพรานเหยื่อระเบิดโจรใต้ พ่อเผยภูมิใจในตัวลูกที่ทำหน้าที่จนวาระสุดท้าย
ฝังศพทหารพราน จากเหตุคนร้ายลอบระเบิดทหารพรานปัตตานี ขณะที่กำลังลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยครู พ่อเผยภูมิใจในตัวลูกที่ทำหน้าที่ทหารจนวาระสุดท้าย ถึงแม้จะขาดเสาหลักในครอบครัว
เมื่อวันที่ 13 ส.ค. จากเหตุการณ์คนร้ายได้ลอบวางระเบิด จนท.ทหารพรานขณะที่กำลังลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยครู ในพื้นที่ ม.6 บ.ปะกาลือสง ต.ตุยง ริมถนนสายบ้านท่ายาบอ-บ้านปะกาลือสง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ส่งผลให้ อส.ทพ.เอมลุคมาน หะยีสะแม อายุ 23 ปี ถูกสะเก็ดระเบิด และแรงระเบิดเข้าลำตัวหลายแห่งเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ล่าสุด ที่มัสยิดบานา ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี มีประชาชนชาวไทยมุสลิมกว่า 500 คน ร่วมละหมาดศพ อส.ทพ.เอมลุคมาน หะยีสะแม จากนั้นได้เคลื่อนย้ายศพไปยังกูโบร์ (สุสาน) ที่อยู่ติดกับมัสยิดบานา ต.บานา เพื่อทำการฝังศพ โดยมี พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ทพ.43 นายอำเภอเมืองปัตตานี เจ้าหน้าที่ทหารพราน และประชาชนชาวไทยมุสลิมเป็นจำนวนมาก เดินทางมาแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเสียใจ โดย พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ทพ.43 ได้มอบเงินช่วยเหลือตามสิทธิกำลังพลในเบื้องต้นให้แก่ครอบครัวของ อส.ทพ.เอมลุคมาน หะยีสะแม ด้วย
ทั้งนี้ อส.ทพ.เอมลุคมาน หะยีสะแม อยู่บ้านเลขที่ 6/1 หมู่ 2 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เพิ่งสมัครเป็นทหารพรานเมื่อเดือนกันยายน ปี 2562 ซึ่ง อส.ทพ เอมลุคมาน มีพี่น้องอยู่ 4 คน ชาย 3 หญิง 1 โดย อส.ทพ.เอมลุคมาน เป็นลูกคนที่ 2 ถือว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำให้ครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องสูญเสียบุคคลสำคัญในครอบครัว
ด้าน นายอับดุลอาซิส หะยีสะแม อายุ 54 ปี บิดาของ อส.ทพ เอมลุคมาน ได้เปิดเผยว่า สำหรับการสูญเสียลูก ตนรู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสียคนสำคัญในครอบครัว แต่ตนก็ภูมิใจที่ลูกชายเสียชีวิตในหน้าที่ ซึ่งลูกตนนั้นทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ตนไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย อยากให้คนร้ายหยุดก่อเหตุสักที
นายอับดุลอาซิส เผยตอนท้ายว่า สำหรับเอมลุคมาน เป็นคนเงียบๆ รักในอาชีพที่ทำมาก ซึ่งลูกชายตนสมัครใจเองที่จะเป็นทหารในการป้องกันดูแลประชาชน และถือเป็นเสาหลักในการเลี้ยงดูคนในครอบครัว ซึ่งการดำเนินชีวิตหลังจากนี้ของคนในครอบครัวนั้นก็จะเดินหน้าต่อและยืนด้วยลำแข้งต่อไป และตนรู้ว่าผู้บังคับบัญชาของลูกชายไม่ทิ้งครอบครัวของตนอย่างแน่นอน
ที่มา: mgronline.com
