จากเหตุการณ์ที่ทรัมป์สั่ง7 ประเทศห้ามมุสลิมห้ามเข้าสหรัฐ ได้แก่ อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซีเรีย เยเมน เวเนซุเอล่า และเกาหลีเหนือ ทำให้คู่รัดมุสลิมต้องห่างจากกันนานถึง 3 ปี
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: มุสลิมห้ามเข้าสหรัฐ! 3ปีที่รอคอย หนุ่มหอบดอกไม้รอรับภรรยาสุดดีใจ
จากเหตุการณ์ที่ทรัมป์สั่ง7 ประเทศห้ามมุสลิมห้ามเข้าสหรัฐ ได้แก่ อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซีเรีย เยเมน เวเนซุเอล่า และเกาหลีเหนือ ทำให้คู่รัดมุสลิมต้องห่างจากกันนานถึง 3 ปี....
เมื่อวันที่ 7 กย.62 รอเมซ อัลกาซโซลิ (Ramez Alghazzouli) นักวิจัยธุรกิจ วัย 30 ปี ถือช่อดอกกุหลาบแดงรอรับภรรยา อัสมา คอเด็ม อัล อาร์บัยอีน (Asmaa Khadem Al Arbaiin) ที่สนามบินนานาชาติฟีนิกซ์ เขารอมานานถึง 3 ปีเพื่อวันนี้
หลังจากถูกบังคับให้ต้องแยกจากกัน อันเนื่องมาจากคำสั่งผู้บริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่สั่งห้ามคนจากประเทศมุสลิมเข้าประเทศ
ทั้งคู่เป็นมุสลิมจากประเทศซีเรีย ซึ่งแต่งงานกันตั้งแต่ปี 2016 รอเมซใช้เวลาหลายปีในการเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ออกวีซ่าเข้าประเทศให้กับอัสมา ซึ่งติดอยู่ที่ประเทศตุรกี แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ในที่สุดเรื่องของเขาถูกเผยแพร่ผ่านสื่อ HuffPost และในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา เขาได้รับอีเมลจากอัสมา ซึ่งแจ้งว่า วีซ่าของเธอผ่านแล้ว ซึ่งทำให้เขามารอรับเธอที่สนามบิน
ในปี 2018 กระทรวงการต่างประเทศสสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธคำร้องขอให้ออกวีซ่ากว่า 37,000 ใบ อันเนื่องมาจากคำสั่งห้ามมุสลิมจากบางประเทศเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา ซึ่งการปฏิเสธดังกล่าวทำให้ครอบครัวมุสลิมต้องแยกจากกัน แม้เขาจะทำงานในตำแหน่งระดับสูงของรัฐบาล แต่เมื่อปลายเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ทำเนียบขาวประกาศว่า ได้พิจารณาออกวีซ่าให้ผู้ยื่นขอ ประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนที่เคยปฏิเสธไว้ และหนึ่งในนั้นคือ วีซ่าของอัสมา
อัสมา แทบจะไม่เชื่อว่า นี่เป็นความจริง แม้เมื่ออยู่บนเครื่องบินแล้วแต่เธอยังเฝ้าทวนหมายเลขหนังสือเดินทางในเอกสารเข้าประเทศ ว่ามันเป็นหมายเลขหนังสือเดินทางของเธอจริง ๆ เธอเดินทางจากตุรกี มายังประเทศเยอรมัน และต่อเครื่องมายังสหรัฐ ฯ จนถึงยังแอริโซน่า และได้อยู่ร่วมกับสามีของเธออีกครั้งในที่สุด-hot.muslimthaipost.com
ที่มา:www.huffpost.com