มาเลเซียเอาผิดคดี ถุงเท้าอัลเลาะห์ วางขายเดือนรอมฎอน องค์สุลต่านเรียกร้องให้สอบสวน
วันที่ 26 มี.ค.เอเอฟพีรายงานว่า ศาลมาเลเซียตั้งข้อหาผู้บริหารสาขาร้านสะดวกซื้อท้องถิ่นจำนวน 5 คนรวมถึงผู้จัดจำหน่ายถุงเท้าที่มีคำว่า “อัลเลาะห์” วางขายในร้าน 1 แห่งช่วงเดือนรอมฎอน
ทำให้ประชาชนในมาเลเซียซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามไม่พอใจ คดีที่สุลต่านอิบราฮิม สมเด็จพระราชาธิบดีมาเลเซียเรียกร้องให้มีการสอบสวนและดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อใครก็ตามที่พบว่า กระทำผิด
นายไช คีคาน อายุ 57 ปี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร้านสะดวกซื้อ “เคเคซูปเปอร์มาร์ท” ในมาเลเซียและภรรยาในตำแหน่งผู้อำนวยการบริษัทถูกตั้งข้อหาเจตนากระทบกระเทือนจิตใจชาวมุสลิม ส่วนเจ้าหน้าที่ 3 คน จากบริษัทจัดจำหน่วยซินเจียนชางถูกตั้งข้อหายุยงส่งเสริม
ทั้งหมดไม่สารภาพยอมรับผิดและเจอโทษจำคุกสูงสุด 1 ปีหรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะนี้ทั้งหมดได้รับการประกันตัวออกไป กำหนดไต่สวนในชั้นศาลอีกครั้งวันที่ 29 เม.ย.นี้
ร้านสะดวกซื้อออกแถลงการณ์ขอโทษ และชี้แจงว่า ตั้งแต่ทราบเรื่อง ทางร้านหยุดขายถุงเท้าทันที และว่ามีเพียง 5 คู่เท่านั้นที่มีคำว่า “อัลเลาะห์” และถือประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องจริงจัง
ด้านผู้จัดจำหน่ายออกแถลงการณ์ขอโทษ ระบุว่า ถุงเท้าที่เป็นปัญหาอยู่นี้ สั่งมาพร้อมกับถุงเท้า 18,800 คู่จากบริษัทที่อยู่ในประเทศจีน
ภาพถุงเท้าแพร่ทั่วโซเชียลมีเดีย ทำให้สาธารณะขุ่นเคือง เนื่องจากชาวมุสลิมจำนวนหนึ่งถือว่า หมิ่นศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะการวางขายในเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์