ยูเนสโกขึ้นทะเบียนสถานที่ใน “ปาเลสไตน์-อิหร่าน” เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม
ยูเนสโกขึ้นทะเบียนสถานที่ใน “ปาเลสไตน์-อิหร่าน” เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ว่า คณะกรรมการมรดกโลก องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) มีมติขึ้นทะเบียน "เทล เอส-สุลต่าน" (Tell es-Sultan) ซึ่งตั้งอยู่ด้านนอกแหล่งอารยธรรม "เทล เจริโค" (Tel Jericho) ซึ่งเป็นพื้นที่การตั้งถิ่นฐานของชาวปาเลสไตน์ ในเขตเวสต์แบงก์ "ก่อนยุคประวัติศาสตร์" เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม
แถลงการณ์ของยูเนสโกระบุว่า แม้ตอนนี้ไม่มีชาวคริสต์และชาวยิวอาศัยอยู่บริเวณนี้แล้ว แต่สิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่มีคุณค่าระดับสูงในทางประวัติศาสตร์ และแสดงถึงการบูรณาการความหลากหลาย ของคุณค่าทางมนุษยชาติที่ประเมินค่ามิได้
รายงานระบุด้วยว่า มติการขึ้นทะเบียนเทล เอส-สุลต่าน ไม่ได้รับการคัดค้านจากสมาชิกประเทศใด เนื่องจากอิสราเอลลาออกจากการเป็นสมาชิกยูเนสโก ในช่วงเวลาเดียวกับสหรัฐ เมื่อปี 2562 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลวอชิงตันชุดปัจจุบันของประธานาธิบดีโจ ไบเดน นำสหรัฐกลับเข้าเป็นสมาชิกยูเนสโก เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
กระนั้น ย้อนกลับไปเมื่อปี 2560 ยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้เขตเมืองเก่า อัล-คาลิล และมัสยิดอิบราฮิม หรือสุสานนักบวชอับราฮัม ตั้งอยู่ในเมืองเฮบรอน หรือเมืองฮีบรอน ทางตอนใต้ของเขตเวสต์แบงก์ เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เรียกเสียงประณามอย่างหนักจากสหรัฐ และอิสราเอล
นอกจากนั้น ยูเนสโกมีมติในวันเดียวกัน ขึ้นทะเบียน คาราวานซาราย (Caravanserai) ซึ่งเป็นสถานีคาราวาน หรือสถานที่พักข้างทางแบบเปอร์เซียในอิหร่าน 56 แห่ง จากมากกว่า 200 แห่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเช่นกัน
ที่มา : http://dailynews.co.th/