สถานการณ์สภาวะน้ำท่วมมาเลเซียที่เกิดจากฝนตกหนักหลายวันทำให้ประชาชนเกือบ 40,000 คน
4 มี.ค. 66 สถานการณ์สภาวะน้ำท่วมมาเลเซียที่เกิดจากฝนตกหนักหลายวันทำให้ประชาชนเกือบ 40,000 คนต้องอพยพหนีออกจากบ้านเรือนในรัฐยะโฮร์ทางภาคใต้ของมาเลเซีย ซึ่งมีพรมแดนติดกับสิงคโปร์ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
สื่อท้องถิ่นและสื่อสังคมออนไลน์ลงภาพน้ำท่วมถนน ยวดยานจมน้ำ บ้านเรือนเต็มไปด้วยน้ำ และร้านค้าปิดเป็นแถวยาวในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง เป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือ ตำรวจแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คนนับตั้งแต่วันพุธ ประกอบด้วยชายที่ถูกกระแสน้ำพัดไปขณะอยู่ในรถ คู่รักสูงวัย 2 คน และสตรีวัย 68 ปี ประชาชนเกือบ 41,000 คนใน 6 รัฐ ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐยะโฮร์ ทางใต้ของประเทศต้องอพยพไปอาศัยตามโรงเรียนและศูนย์ชุมชน
“เราเคยเตรียมพร้อมเสมอสำหรับฤดูฝนในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม” โมห์ด นูร์ ซาด วัย 57 ปี อาศัยอยู่ในเมืองยอง เป็ง ในเขตบาตู ปาฮัตของรัฐยะโฮร์เปิดเผยกับรอยเตอร์
“แต่ละบ้านมีเรือ แต่ตอนนี้ด้วยสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้ ดูเหมือนว่าเราไม่ได้เตรียมพร้อม และกลายเป็นเรื่องที่ปั่นป่วน”
สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งศูนย์พักพิงบรรเทาทุกข์มากกว่า 200 แห่งสำหรับผู้ประสบภัยน้ำท่วม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ภาวะน้ำท่วมในมาเลเซียเป็นเรื่องปกติในช่วงฤดูมรสุมประจำปีระหว่างเดือนตุลาคมถึงมีนาคม แต่ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในสัปดาห์นี้ทำให้ชาวยะโฮร์จำนวนมากต้องอพยพหาที่หลบภัย
มาเลเซียกำลังเผชิญฝนตกหนักต่อเนื่องอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน นับตั้งแต่เข้าสู่ฤดูมรสุมประจำปีที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ประธานกลุ่มเฟรนด์ส์ออฟดิเอิร์ธมาเลเซีย (Friends of the Earth Malaysia) ชี้ว่า ปริมาณฝนในช่วงนี้ถือว่ามากผิดปกติ เป็นเพราะการตัดไม้และถางป่าในพื้นที่สูงทำให้ดินถูกน้ำฝนชะไหลไปสะสมตามแม่น้ำและช่องทางระบายน้ำจนไม่สามารถรองรับน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ยังมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างมากเกินไปจนไม่มีพื้นที่สีเขียวสำหรับช่วยดูดซับน้ำฝน สำนักงานอุตุนิยมวิทยามาเลเซียเตือนว่า อาจจะมีฝนตกต่อเนื่องไปจนถึงเดือนเมษายนนี้
ที่มา สำนักข่าวไทย