ความรุนแรงระหว่าง อิสราเอลกับปาเลสไตน์ขยายลามเข้าสู่เขตเวสต์แบงก์แล้ว ผู้ชุมนุมปะทะกับเจ้าหน้าที่จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
อิสราเอลปะทะปาเลสไตน์ลามเข้าเวสต์แบงก์ เจ็บ-ตายอื้อ!
ความรุนแรงระหว่าง อิสราเอลกับปาเลสไตน์ขยายลามเข้าสู่เขตเวสต์แบงก์แล้ว ผู้ชุมนุมปะทะกับเจ้าหน้าที่จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า การปะทะกันระหว่างกองกำลังความมั่นคงอิสราเอลกับชาวปาเลสไตน์ แผ่ขยายไปถึงเขตเวสต์แบงก์ ทางตะวันออกของอิสราเอลแล้ว โดยชาวปาเลสไตน์ออกมาประท้วง ขว้างปาก้อนหินและระเบิดขวดใส่เจ้าหน้าที่อิสราเอล ซึ่งตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา, กระสุนยาง และกระสุนจริง ทำให้มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 ศพ บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน
เหตุความไม่สงบครั้งนี้เริ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังความตึงเครียดเรื่องกรุงเยรูซาเล็มตะวันออกเพิ่มสูงขึ้น ถึงขั้นเกิดการปะทะกันระหว่างผู้แสวงบุญปาเลสไตน์กับเจ้าหน้าที่อิสราเอล ที่มัสยิด อัล-อักศอ ซึ่งได้รับความเคารพอย่างมากจากทั้งชาวยิวและชาวมุสลิม ก่อนที่กลุ่มติดอาวุธฮามาส ในฉนวนกาซา จะเปิดฉากยิงจรวดโจมตี ทำให้อิสราเอลโจมตีทางอากาศตอบโต้
การต่อสู้ยังดำเนินต่อไปจนถึงวันนี้ โดยมีผู้เสียชีวิตในกาซาแล้วอย่างน้อย 126 ศพ มีผู้ต้องอพยพหนีความรุนแรงอย่างน้อย 10,000 คน ขณะที่ฝั่งอิสราเอลมีผู้เสียชีวิต 8 ศพ รวมทั้งเด็ก 1 คนและทหาร 1 นาย
ความขัดแย้งยังจุดชนวนให้ชาวยิวและชาวอาหรับในอิสราเอลก่อม็อบออกมาทำลายทรัพย์สิน และทำร้ายคนของอีกฝ่าย จนกระทรวงกลาโหมอิสราเอลต้องเรียกกองกำลังสำรองหน่วยตระเวนชายแดนมาควบคุมสถานการณ์ ก่อนที่ในวันศุกร์ ชาวปาเลสไตน์ที่โกรธแค้นจะออกมาประท้วงในหลายเมืองของเขตเวสต์แบงก์ จนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
นานาชาตินำโดย อียิปต์, กาตาร์ และสหประชาชาติ พยายามหาทางให้อิสราเอลกับปาเลสไตน์หยุดยิงซึ่งกันและกัน แต่ไม่เป็นผล นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลออกแถลงการณ์ในเช้าวันศุกร์ ยืนยันว่าปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์จะดำเนินต่อไปนานเท่าที่จำเป็น และกลุ่มฮามาสต้องชดใช้อย่างหนัก เช่นเดียวกับกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ
เมื่อวันพฤหัสบดี อิสราเอลส่งทหารกองกำลังสำรอง 7,000 นายไปยังชายแดนติดกับฉนวนกาซา ทำให้เกิดความกังวลว่าพวกเขาอาจบุกโจมตีทางภาคพื้นร่วมด้วย ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจากผู้นำกองทัพ และรัฐบาลก่อน
ที่มา: www.thairath.co.th