โฆษกขององค์การสหประชาชาติ แถลงว่า องค์การสหประชาชาติมีความกังวลใจต่อเหตุการณ์รัฐประหารในเมียนมา โดยเฉพาะผลกระทบที่จะมีต่อชาวมุสลิมโรฮีนจา ประมาณ 600,000 คน
รัฐประหารเมียนมา ยูเอ็นห่วงชะตากรรม มุสลิมโรฮีนจา
โฆษกขององค์การสหประชาชาติ แถลงว่า องค์การสหประชาชาติมีความกังวลใจต่อเหตุการณ์รัฐประหารในเมียนมา โดยเฉพาะผลกระทบที่จะมีต่อชาวมุสลิมโรฮีนจา ประมาณ 600,000 คน ที่ยังอาศัยอยู่ในรัฐยะไข่ ซึ่งในจำนวนนี้มีประมาณ 120,000 คน ที่ถูกจำกัดพื้นที่ให้อยู่แต่ภายในค่ายที่พัก พวกเขาไม่สามารถไปไหนมาได้อย่างเป็นอิสระ และมีข้อจำกัดอย่างยิ่งในการเข้าถึงบริการสุขภาพพื้นฐานและการศึกษา โดยคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ เตรียมจะประชุมหารือด่วนในประเด็นนี้ในวันอังคาร เพราะกังวลว่า การก่อรัฐประหารจะยิ่งทำให้สถานการณ์และสภาพความเป็นอยู่ของชาวโรฮีนจาเลวร้ายมากกว่านี้
เมื่อปี 2017 กองทัพเมียนมาได้ใช้กำลังเข้ากวาดล้างกลุ่มมุสลิมโรฮีนจา ในรัฐยะไข่ทำให้ชาวโรฮีนจามากกว่า 700,000 คน ต้องอพยพลี้ภัยไปยังบังกลาเทศ และต้องอาศัยอยู่ในค่ายผู้อพยพ ซึ่ง นายแอนโตนิโอ กูเตเรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ และชาติตะวันตก ต่างประณามเมียนมาว่า เป็นการกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจา แต่เมียนมาปฏิเสธในประเด็นดังกล่าว ขณะที่จีนและรัสเซีย สองชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคง ต่างปกป้องเมียนมาจากกรณีดังกล่าว
นอกจากนี้ องค์การสหประชาชาติยังเรียกร้องให้เมียนมาปล่อยตัว นางซูจี รวมทั้งแกนนำรัฐบาลคนอื่นๆ ที่ถูกกองทัพควบคุมตัวอยู่ด้วย
ที่มา: www.thairath.co.th