นายทาร์แรนท์ ในชุดนักโทษสีเทา ปรากฏตัวต่อหน้าศาลและเผชิญหน้ากับบรรดาเหยื่อและครอบครัวของเหยื่อเป็นวันแรกในจำนวนที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น 4 วัน
มือกราดยิงมัสยิดไครสต์เชิร์ช ขึ้นศาลเผชิญหน้าเหยื่อ นิ่งเฉยไร้สำนึก
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกานิวซีแลนด์ ณ นครไครสต์เชิร์ช ออกนั่งบัลลังก์ เพื่อรับฟังคำให้การถึงผลกระทบต่อชีวิตของเหยื่อที่รอดชีวิตและครอบครัวของเหยื่อที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์บุกเดี่ยวกราดยิงกลุ่มชาวนิวซีแลนด์ผู้นับถือศาสนาอิสลามในสุเหร่า 2 แห่งเมื่อวันที่ 15 มีนาคมปีที่แล้ว
- 36 นาทีอันโหดเหี้ยม ในวันดำมืดที่สุดของนิวซีแลนด์
- เปิดประวัติ มือกราดยิง 2 มัสยิดนิวซีแลนด์คือใคร?
- ประมวลภาพเหตุยิงกราดในนิวซีแลนด์
พร้อมกับรับฟังรายงานสรุปพฤติกรรมของนายเบรนตัน ทาร์แรนท์ ชายหนุ่มสัญชาติออสเตรเลียวัย 29 ปี ผู้ลงมือประกอบอาชญากรรมครั้งนี้ เพื่อพิจารณาพิพากษากำหนดโทษของนายทาร์แรนท์ ที่ว่าความด้วยตนเองและรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าประกอบอาชญากรรมร้ายแรงด้วยการฆาตกรรมผู้อื่นๆ 51 ข้อหา และพยายามกระทำฆาตกรรมอีก 40 ข้อหา กับมีพฤติกรรมอันเป็นการก่อการร้ายอีก 1 ข้อหา
นายเบรนตัน ทาร์แรนท์ มือกราดยิงมัสยิดไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์ วันเกิดเหตุเมื่อปี 62
นายทาร์แรนท์ ในชุดนักโทษสีเทา ปรากฏตัวต่อหน้าศาลและเผชิญหน้ากับบรรดาเหยื่อและครอบครัวของเหยื่อเป็นวันแรกในจำนวนที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น 4 วัน โดยที่ผู้พิพากษา ศาลฎีกา คาเมรอน แมนเดอร์ แถลงว่า ศาลจะไม่พิพากษาโทษนายทาร์แรนท์ จนกว่าจะถึงวันที่ 27 สิงหาคมนี้ เพื่อให้เหยื่อที่ส่งถ้อยแถลงมายังศาลทั้งหมดกว่า 200 รายสามารถอ่านถ้อยแถลงต่อศาลได้หมดสิ้น ผู้ต้องหาคดีอาญาที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์นิวซีแลนด์อยู่ในสภาพสงบ ใบหน้านิ่งเฉยไร้ความรู้สึกใดๆ มือที่ถูกสวมกุญแจมือประสานกันบนตักขณะตามองตรงไปยังบรรดาเหยื่อที่ขึ้นสู่คอกพยานเพื่ออ่านถ้อยแถลงต่อศาลห่างออกไปเพียง 3 เมตร บอกเล่าถึงความทุกข์ทรมานที่ได้รับจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักทั้งทางร่างกายและจิตใจต่อศาล ในขณะที่นายบาร์นาบี ฮอเวส พนักงานอัยการแห่งรัฐ บรรยายรายละเอียดถึงเจตนารมณ์และพฤติกรรมอำมหิตของคนร้ายรายนี้
บรรดานักกฎหมายในนิวซีแลนด์ คาดหมายว่า ศาลจะมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกนายทาร์แรนท์ตลอดชีวิตโดยไม่มีทัณฑ์บน ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในนิวซีแลนด์
นายเบรนตัน ทาร์แรนท์ มือกราดยิงมัสยิดไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์ ขึ้นศาลเผชิญหน้าเหยื่อ
นาง อับดีอาซิซ อาลา จามา ชาวโซมาเลียลี้ภัยวัย 44 ปีซึ่งมีนาย มูเซ อวาเล น้องเขยถูกยิงเสียชีวิต แถลงต่อศาลว่า ยังคงมีอาการหลอนทางจิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ในสมองยังคงได้ยินเสียงปืนอัตโนมัติดังรัว เห็นภาพคนตายเกลื่อนอยู่รอบตัว เลือดนองเต็มไปในทุกที่ทางอยู่ตลอดเวลา
ในขณะที่นาง เมย์ซูน ซัลลามา ซึ่งเสียลูกชาย อตา เอลเลย์ยาน ผู้รักษาประตูทีมฟุตซอลทีมชาตินิวซีแลนด์ไปในเหตุการณ์ครั้งนี้ ขณะที่ผู้เป็นสามีถูกยิงเข้ากลางหลังและบริเวณศีรษะ ยอมรับว่าเฝ้าแต่ครุ่นคิดว่าลูกชายคิดอะไรในวินาทีสุดท้ายของชีวิตอยู่ไม่วาย
“ฉันอภัยให้คุณไม่ได้ คุณอวดตัวว่ามีอำนาจในการพรากจิตวิญญาณของคน 51 คนไป ความผิดเพียงอย่างเดียวของพวกเราในสายตาคุณคือการเป็นมุสลิม”
นายซัลลามากล่าวและเสริมว่า “คุณฆ่าความเป็นมนุษย์ในตัวเองไปแล้ว และฉันไม่คิดว่าทั้งโลกจะให้อภัยคุณ ให้อภัยต่ออาชญากรรมเลวร้ายของคุณ ขอให้ประสบกับโทษทัณฑ์ขนานหนักที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตเลวร้ายนี้และนับแต่นี้ต่อไป”
นายเบรนตัน ทาร์แรนท์ มือกราดยิงมัสยิดไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์ ขึ้นศาลเผชิญหน้าเหยื่อ
กามาล ฟาวดา อิหม่ามประจำสุเหร่าอัลนูร์ หนึ่งในที่เกิดเหตุ บอกต่อมือปืนรายนี้ว่า หลงทาง เข้าใจผิดเพราะถูกชักนำไปในทางที่ผิด และตนสามารถบอกได้เช่นกันว่า ครอบครัวของมือปืนก่อการร้ายรายนี้หรือรายอื่นใด ก็สูญเสียลูกชายและลูกๆ ของตนไปเช่นเดียวกัน
อัยการฮาวเวสบรรยายต่อศาลว่า ทาร์แรนท์ ถูกจับกุมขณะเดินทางจากสุเหร่าที่ก่อเหตุแห่งที่ 2 เพื่อไปยังสุเหร่าแห่งที่ 3 ที่เมืองแอชเบอร์ตัน เพื่อลงมืออีก โดยบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ต้องการฆ่าคนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ มากกว่าที่ได้ลงมือไปแล้ว
มัสยิดไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์
ทั้งยังยอมรับด้วยตัวเองว่า ลงมือครั้งนี้เพื่อสร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นในชุมชนมุสลิม พร้อมกับเผยพฤติกรรมอำมหิตของทาร์แรนท์ว่า ลงมือยิงไม่เลือกหน้า ไม่ว่าจะเป็นหญิง ชายหรือเด็ก เหยียบย่ำไปบนซากศพขณะเคลื่อนที่หาเหยื่อต่อไป พร้อมกับถ่ายทอดสดผ่านโซเชียลมีเดียด้วยกล้องติดศีรษะ “เมื่อเห็นเด็กชาย 3 ขวบเกาะขาผู้เป็นพ่อแน่น เขาเล็งอย่างตั้งใจไปที่ชายผู้เป็นพ่อแล้วยิงสองนัดซ้อน” อัยการระบุ
ที่มา: www.matichon.co.th