ข่าวดี! ศบคประกาศผ่อนปรน 6 กิจกรรมเริ่ม 3 พคนี้
ข่าวดี! ศบค.ประกาศผ่อนปรน 6 กิจกรรมเริ่ม 3 พ.ค.นี้ เช่น ร้านอาหาร ตลาด ร้านตัดผม กิจการค้าปลีก กีฬาสันทนาการ แต่ต้องประเมินทุก 14 วันหากมีปัญหาผู้ป่วยเพิ่มต้องทบทวนทันที ส่วนเคอร์ฟิวคงเวลาเดิม หลังวันนี้ ผู้ป่วย COVID-19 เพิ่มอีกเพียง 7คน
วันนี้ (30 เม.ย.2563) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ว่า มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นพียง 7 คน ผู้ป่วยสะสม 2,954 คน หายป่วยกลับบ้านเพิ่มอีก 22 คนรวมหายป่วยกลับบ้านแล้ว 2,687 คน เสียชีวิตเท่าเดิม 54 คน รักษาตัวในโรงพยาบาล 213 คน
“เป็นครั้งแรกที่ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ในกลุ่มผู้ป่วยรายเดิม เพราะผู้ป่วยใหม่ 4 คน มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน จ.ภูเก็ต 3 คน กระบี่ 1 คน และอีก 3 คนที่อยู่ใน State Quarantine ในกทม.ที่เดินทางมาจากมาเลเซีย 3 คน”
นอกจากนี้ในจังหวัดท่องเที่ยวคือ จ.กระบี่ ได้พัฒนาศูนย์ตรวจ COVID-19 แห่งแรก สามารถรู้ผลได้ภายใน 4 ชั่วโมง ถือเป็นข่าวดีที่จะช่วยค้นหาผู้ติดเชื้อได้เร็วขึ้น
อินเดีย น่าห่วงยอดผู้ป่วยเพิ่ม
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์โลกล่าสุด 3,220,225 คน อาการหนัก 59,811 คน หายป่วยแล้ว 99,757 คน เสียชีวิต 228,223 คน โดยเสียชีวิตวันเดียว 10,249 คน หรือคิดเป็น 7.1% ของผู้ป่วยทั้งหมด ขณะที่สหรัฐฯ ยังมากที่สุดพบผู้ป่วยใหม่วันเดียว 28,768 สะสม 1,064,533 คน โดยไทยอย๋อันดับที่ 59 ของโลก
ส่วนในเอเชีย พบว่า อินเดียยังมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุดในเอเชียคือ 33,062 คนมีผู้ป่วยเพิ่มวันเดียว 1,738 คน เสียชีวิต 1,079 คน ส่วนสิงคโปร์ พบผู้ติดเชื้อวันเดียว 690 คน ตัวเลขสะสม 15,000 คน เช่นเดียวกับญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ยังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนเกาหลีใต้ เหลือตัวเลขหลักเดียวเช่นเดียวกับไทย แต่ผู้ป่วยสะสมเป็นหลักหมื่นแล้ว
ตรึงเคอร์ฟิวต่อ 1 เดือน-ผ่อนปรน 6 กิจกรรม
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ฝากมาว่ามาตการต่างๆ ถือความรับผิดชอบของคนไทยทั้งประเทศที่ได้ตัดสินใจร่วมมือกันจัดการกับการระบาดของไวรัส COVID-19 ด้วยกัน หากมีการควบคุมสถานการณ์ในระยะแรกได้ ก็จะมีการผ่อนปรนในระยะต่อไปได้ พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความเสียสละ และบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน และป้องกันการแพร่ระบาด
“ขณะนี้ศบค.ได้ประกาศขยายเวลาสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเดิมตึง และตรึงยาวมา 1 เดือนและต่อจนถึง 31 พ.ค.นี้ แค่ความตึงในมาตรการในช่วงเดือนที่ 2 นี้ จะหย่อนลงมาบ้างเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ตัวเลขเริ่มผ่อนลงมาเหลือหลักเดียว ”
ผ่อนปรน 6 กิจการ/กิจกรรมเริ่ม 3 พ.ค.นี้
สำหรับการตรึงสถานการณ์ฉุกเฉิน จะมีดังนี้
1. มาตรการเคอร์ฟิว 22.00 น. -04.00 น.
2. ควบคุมการเดินทางเข้าออกทางบก-ทางน้ำ-ทางอากาศ
3. ต้องให้ผู้เดินทางเข้ากักตัวในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 14 วัน
4. การจำกัดการบินเข้าออก-สายการบินระหว่างประเทศ
5. งดและชลอการดินทางเข้าจังหวัด
6. คงการทำงานที่บ้าน ร้อยละ 50
7. คนเข้าสถานที่แออัดเสี่ยงต่อโรคชั่วคราว
ส่วนมาตรการผ่อนปรน ศบค.จะมีมาตรฐานกลาง ในทุกกิจกรรม ในทุกพื้นที่ให้ผู้ว่าฯราชการจังหวัด และผู้ว่าฯกทม. ปฏิบัติ แต่กำหนดจะเข้มกว่ามมตรฐานกลางได้ แต่ต้องไม่หย่อนกว่ากัน
“ประเมินทุก 14 วัน ถ้าคงตัวเลขติดเชื้อคงที่เรื่อยๆดี แต่ถ้าตัวเลขเพิ่มเป็น 2-3 หลักก็จะต้องร่วมกันคิดถอยหลังกลับมาทบทวนใน 6 กิจการและกิจกรรมที่ตึงและตรึงไว้”
สำหรับ 6 กิจกรรมที่ผ่อนปรน มีดังนี
1. ตลาด ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย
2. ร้านจำหน่ายอาหาร
3. กิจการค้าปลีก-ส่ง ซูเปอร์มาเก็ต
4. ร้านสะดวกซื้อบริเวณพื้นที่นั่ง ยืนรับประทาน รถเร่ ร้านค้าปลีกขนาดย่อย
5. กีฬาสันทนาการ กิจกรรมในสวนสาธารณะ ได้แก่ เดิน รำไทเก๊ก สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกาย โดยไม่เล่นเป็นทีม ไม่มีการแข่งขัน ได้แก่ เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยาน กอล์ฟ และสนามซ้อม
6. ร้านตัดผมเสริมสวน เฉพาะตัด สระ ไดร์ผม
7. อื่นๆ ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์
