น้อยคนที่จะรู้ พิธีฮัจญ์เคยว่างเปล่า หลายร้อยปี จากภัยพิบัติ การเมือง และความไม่ลงรอย
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: พิธีฮัจญ์เคยว่างเปล่า หลายร้อยปี จากภัยพิบัติ การเมือง และความไม่ลงรอย
ปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ทางการซาอุดิอาระเบีย เกริ่นไว้ก่อนว่า พิธีฮัจญ์ในปีนี้อาจจะต้องยกเลิก จากความไม่แน่นอนว่า การระบาดไวรัสโควิด-19 จะหายไปหรือไม่ และเรียกร้องให้มุสลิมทั่วโลกอย่าเพิ่งจอง หรือวางแผนการเดินทางมาทำฮัจญ์ ซึ่งกำหนดเริ่มในเดือนกรกฎาคม
มูฮัมมัด ซอและฮ์ บิน ตาเฮอร์ บันเทน รัฐมนตรีกระทรวงกิจการฮัจญ์และอุมเราะฮ์ กล่าวว่า ไม่ควรรีบทำสัญญาการเดินทางจนกว่าจะมีการยืนยันเป็นทางการว่า จะมีการทำฮัจญ์ และว่าทางกระทรวงได้คืนเงินค่าธรรมเนียมทำวีซ่าอุมเราะฮ์ ให้กับเอเจนซี่แล้ว
หลังจากมีการประกาศระงับการเดินทางมาปฏิบัติศาสนกิจเมื่อ 2 เดือนผ่านมา
นี่ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่มีระงับทำพิธีฮัจญ์ ในหลายศตวรรษที่ผ่านมา แต่นับตั้งแต่ที่มีการก่อตั้งอาณาจักรซาอุุดิอาระเบีย ในปี 1932 ยังไม่เคยมีการระงับการทำฮัจญ์มาก่อนแม้แต่ปีเดียว
แม้จะมีการตายในคนทั่วโลกหลายล้านคน ในระหว่างการระบาดโรคหวัดสเปน (Spanish flu) ปี 1917 – 1918 ก็ตาม
การระงับพิธีฮัจญ์เกิดแล้วเกือบ 40 ครั้ง เริ่มในปี ค.ศ.629
เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ต้องมีการยกเลิกประกอบพิธีฮัจญ์ อาทิ
ค.ศ. 865 – การสังหารหมู่บนอารอฟะฮ์
จากความไม่ลงรอยระหว่างอิสมาอีล บินยูซุฟ กับวงศ์อับบาซิยะฮ์ ที่มีเมืองหลวงในแบกแดด ทำให้เกิดการโจมตีบนเนินอารอฟะฮ์ คนที่มาทำฮัจญ์โดนสังหารจึงทำให้ต้องยกเลิก
ค.ศ. 930-940 – การโจมตีโดยพวกคาร์มาเตียน
ซึ่งเป็นหนึ่งในนิกายอิสมาอีลลียะฮ์ ในสำนักคิด Shia ที่มีฐานในบาห์เรน ได้โจมตีนครมักกะฮ์
ประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า พวกคาร์มาเตียน สังหารคนทำฮัจญ์ไปราว 30,000 คน และทิ้งศพลงในบ่อน้ำซัม ซัม พวกนี้ปล้นมัสยิด ยึดเอาหินดำจากอาคารกะอฺบะอฺไปไว้ยังบาห์เรน หลังจากนั้น ฮัจญ์ระงับไปราว 10 ปี จนกระทั่งได้หินดำกลับมาไว้ที่เดิม
ค.ศ. 938 – ความบาดหมางระหว่างวงศ์อับบาสิยะฮ์ (อิรักและซีเรีย) กับ ฟาติมิยะฮ์ (อียิปต์)
เป็นเรื่องการเมืองที่ทำให้ฮัจญ์ต้องระงับไป 8 ปี เพราะมีอปสรรคในการเดินทาง จนกระทั่งกลับมาเปิดให้ทำฮัจญ์อีกครั้งในปี 991
ค.ศ. 1831 – ฮัจญ์ระงับเพราะกาฬโรคระบาด
เริ่มมาจากที่อินเดีย และแพร่มายังมักกะฮ์ ทำให้คนที่เดินทางมาทำฮัจญ์ตายไป 3 ใน 4 จากทั้งหมด
ค.ศ. 1837 – 1858 – เกิดโรคระบาดหลายระลอก
ทำให้ต้องหยดทำฮัจญ์ไปนาน 7 ปี ได้แก่ ปี 1837 โรคระบาดที่มักกะฮ์ จนไปในปี 1840, ปี 1846 อหิวาตกโรคระบาดในนครมักกะฮ์ มีคนตายกว่า 15,000 คน โรคระบาดยังแผลงฤทธิ์จนปี 1850 และกลับมาระบาดอีกในปี 1865 และ 1883, ปี 2401 มีการระบาดโรคอหิวาตกโรค ทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง และแพร่มายังมักกะฮ์ ทำให้คนอียิปต์ที่มาทำฮัจญ์ต้องหนีไปยังฝั่งทะเลแดง และโดนกักที่นั้น
ที่มา: www.middleeasteye.net
เรียบเรียงโดย สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: http://news.muslimthaipost.com/news/33850
- ไวรัสโควิค พ่นพิษ! ซาอุฯระงับเข้าประเทศทำอุมเราะห์
- 11 ประเทศมุสลิมปิดพรมแดนข้ามอิหร่าน COVIC-19 โรคระบาดหนัก!
- มุสลิมศรีลังกาละหมาดขอพรให้เหยื่อไวรัส COVID19
- ซาอุฯ ประกาศคืนเงินอุมเราะห์ หลังห้ามเข้าประเทศเหตุ COVIT-19
- หญิงซาอุฯเปลี่ยนศาสนา เผยภาพแต่งงานในโบสถ์ ถกสนั่นโซเชียล!
- ชายซาอุฯ เสียชีวิตวัย 120 ปี ทิ้งผู้สืบทอดกว่า 470 ชีวิต
- ลานตอวาฟว่างเปล่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ในมหานครมักกะห์
- 'ไวรัสโคโรน่า'สกัดกั้นผู้แสวงบุญแม้เป็นชาวซาอุฯ-อิหร่านห้ามจัดละหมาดวันศุกร์
- ซาอุฯระงับเฟส 3 ขยายพื้นที่มัสยิดฮะรอม
- กษัตริย์ซัลมาน สั่งเคอร์ฟิวทั่วราชอาณาจักร 21 วัน