จังหวัดยะลาที่มีรายงานเสียชีวิต 1 รายในวันนี้ นับเป็นการเสียชีวิตของผู้ป่วยรายแรกของจังหวัดยะลา
30 มี.ค. 63 นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดยะลา ว่า ผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 35 ราย รายใหม่ 7ราย รักษาหายสะสม 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย นอนรักษาที่โรงพยาบาลจำนวน 31 ราย (รพ.ยะลา 16 ราย, บันนังสตา 11 ราย, รามัน 3 ราย,รพร.ยะหา 1 ราย)
กรณีผู้ป่วย COVID-19 จังหวัดยะลาที่มีรายงานเสียชีวิต 1 รายในวันนี้ นับเป็นการเสียชีวิตของผู้ป่วยรายแรกของจังหวัดยะลา ผู้เสียชีวิต เป็นเพศชาย อายุ 54 ปี อาชีพ ค้าขาย สัญชาติไทย นับถือศาสนาอิสลาม อาศัยอยู่ใน อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ผู้ป่วยมีประวัติเดินทางไปประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 เพื่อส่งบุตรสาวที่เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน และเดินทางกลับ วันที่ 13 มีนาคม 2563 เริ่มป่วยวันที่ 15 มีนาคม 2563 และไปพบแพทย์ในวันที่ 16 มีนาคม 2563 ด้วยอาการไข้ 37.6 องศาเซียลเซียส ไอเจ็บคอ หายใจ ลำบาก อาการปอดอักเสบระยะรุนแรง ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง โดยผลตรวจยืนยันเป็นผู้ติดเชื้อ COVD-19 เมื่อวันที่ 18มีนาคม 2563 ทีมแพทย์ให้การรักษาอย่างเต็มที่ ดูแลอย่างต่อเนื่อง รักษาด้วยยาต้านไวรัสและยาปฏิชีวนะ ใส่เครื่องช่วยหายใจ อาการไม่ดีขึ้นและเสียชีวิต สำหรับผู้สัมผัสร่วมบ้าน มีจำนวน 5 คน พบ 2 ราย เป็นผู้ป่วยยืนยันนอนพักรักษาตัวใน รพ.อีก 3 รายไม่พบเชื้อและแยกกักตัวเองอยู่ที่บ้าน
ในส่วนของข้อแนะนำจากสำนักจุฬาราชมนตรีถึงแนวทางการป้องกันในช่วงการระบาดของโรค COVD-19 ในการปฏิบัติศาสนกิจ รวมถึงข้อปฏิบัติในพีธีทางศาสนา กรณีมุสลิมเสียชีวิตจากการติดเชื้อCOVID-19 ให้ประสานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ในการจัดการมัยยิตและให้บุคคลที่เป็นมุสลิมทำการ ตะยัมมุม แทนการอาบน้ำมัยยิต ในห้องปลอดเชื้อ และผู้มีหน้าที่ตะยัมมุมต้องสวมชุดป้องกันการติดเชื้อ(ขั้นตอนที่1:ตบฝุ่น ลูบใบหน้ามัยยิต ขั้นตอนที่ 2:ตบฝุ่น ลูบมือจนถึงข้อศอกทั้งสองข้าง) แล้วทำการปิดถุงบรรจุศพ ถือเป็นการแทนการกะฝิ่น ย้ำ ห้ามญาติหรือผู้มาเยี่ยมสัมผัสหรือจูบมัยยิต