สถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่2019 หรือ ไวรัสอู่ฮั่น ที่ขณะนี้มีรายงาน
วันที่ 28 ม.ค. 2563 สถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่2019 หรือ ไวรัสอู่ฮั่น ที่ขณะนี้มีรายงานพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะล่าสุดพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสยืนยันแล้ว 1 รายในกัมพูชา ซึ่งเป็นชาวจีนที่เดินทางมาเที่ยวตรงมาจากเมืองอู่ฮั่น พร้อมกับครอบครัว และขณะนี้ครอบครัวก็ถูกกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการแล้ว ล่าสุดตัวเลขผู้ติดเชื้อ ทั่งในจีนและทั่วโลกมีจำนวนเพิ่มขึ้นดังนี้
ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโครานา 2019 ในประเทศจีน เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2563 เวลา 08.30 น.
ติดเชื้อ ตาย ต้องสงสัย วิกฤต พ้นอันตราย
จีน 4126 82 5794 461 59
ไทย 8
ฮ่องกง 8
มาเก๊า 6
ไต้หวัน 5
สหรัฐอเมริกา 5
ออสเตรเลีย 5
ญี่ปุ่น 4
มาเลเซีย- 4
สิงคโปร์ 4
เกาหลีใต้ 4
ฝรั่งเศส 3
แคนาดา 2
เวียดนาม 2
เนปาล 1
พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ประเทศ
กัมพูชา 1
ศรีลังกา 1
รวมยอดผู้ติดเชื้อจากทั่วโลกทั้งหมด 4189 ราย โดย 63 รายอยู่นอกพรหมแดนประเทศจีน
ขณะที่การแพร่ระบาดในประเทศจีนพบแพร่กระจายไปในหลายมณฑลแล้ว โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่เช่น ใน ปักกิ่ง พบผู้ติดเชื้อ 68 ราย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย, เซี่ยงไฮ้ พบผู้ติดเชื้อ 40 ราย เสียชีวิต 1 ราย, เมืองอู่ฮั่น พบผู้ติดเชื้อกว่า 1,400 คนขึ้นไป เสียชีวิตไปแล้ว 76 ราย และมณฑลไหหลำ ทางตอนใต้ของจีน ใกล้เวียดนาม พบผู้ติดเชื้อแล้ว 22 ราย
นาย จ้าว เซียนหวัง นายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่นเผยว่า เมืองอู่ฮั่นซึ่งเป็นพื้นที่วิกฤตที่สุดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 คาดการณ์ว่าก่อนมีการประกาศมาตรการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขั้นสูงสุดในพื้นที่ ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมานั้น อาจมีชาวเมืองอู่ฮั่นประมาณ 5 ล้านคนเดินทางออกจากพื้นที่ไปก่อนหน้านี้ จากรายงานของห้องปฏิบัติการฐานข้อมูล Big DATA ของบริษัท Baidu ประชากรชาวจีนกลุ่มใหญ่ที่สุดในเมืองอู่ฮั่น, เมืองซินหยาง ในมณฑลเหอหนาน, ฉงชิ่ง, เมืองหนานหยาง กว่างโจว และเมืองอื่นๆ คนส่วนใหญ่ที่ออกจากเมืองอู่ฮั่นก่อนประกาศปิดเมือง ซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน น่าจะเดินทางกลับไปที่ภูมิลำเนาบ้านเกิดของพวกเขา ตามเมืองต่างๆที่ระบุ โดยเฉพาะ เมืองเซี่ยวกั่น และ หวงกัง ในมณฑลหูเป่ย เป็น 2 เมืองที่มีสัดส่วนคนเดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่นมากที่สุด ขณะที่อีกบางส่วนเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชาออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้(27 ม.ค. 2563) ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คนแรกในประเทศ เป็นนักท่องเที่ยวชายชาวจีน อายุ 60 ปี เดินทางจากเมืองอู่ฮั่นถึงกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางต่อไปที่จังหวัดพระสีหนุ ทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ข่าวระบุว่าชายคนนี้ เริ่มแสดงอาการป่วยเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 63 หลังจากนั้น เดินทางไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการและผลตรวจเลือดได้รับการยืนยันว่าเป็นอาการป่วยจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 ทั้งนี้ ผู้ป่วยให้ข้อมูลเพิ่มด้วยว่า เดินทางพร้อมครอบครัวเข้าพักที่โรงแรม 2 แห่งในสีหนุวิลล์ ซึ่งขณะนี้สมาชิกครอบครัวอีก 3 คน ถูกกักบริเวณเพื่อรอดูอาการที่โรงพยาบาลพระสีหนุแล้ว
ส่วนที่มองโกเลีย บริเวณพรมแดนติดกับจีน มีการประกาศห้ามคนและรถผ่านด่านพรมแดนด้านที่ติดกับจีน และมีคำสั่งปิดสถานศึกษาไปจนถึงวันที่ 2 มี.ค. 63 รวมถึงสถานที่สาธารณะต่าง ๆ งดการจัดกิจกรรมสาธารณต่าง ๆ เนื่องจากได้รับการยืนยันว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในเขตพรมแดนจีนติดกับพื้นที่ส่วนใหญ่ของมองโกเลีย แต่ภายในมองโกเลีย ยังไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อ
ด้านทางการจีนมีการยืนยันแล้วว่าตลาดสดอู่ฮั่นคือต้นตอ “ไวรัสโคโรนา2019” โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน (CDC) ประสบความสำเร็จในการคัดแยกไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 จากการจัดเก็บตัวอย่างมาจากตลาดอาหารทะเลในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งมีร้านค้าสัตว์ป่าจำนวนมาก หลังตรวจวิเคราะห์แล้ว พบกรดนิวคลีอิกของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ใน 33 ตัวอย่าง จากทั้งหมด เกือบ 600 ตัวอย่างที่เก็บรวบรวมมา ผลการตรวจสอบแสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ มีความเกี่ยวข้อง และ มีต้นตอมาจากสัตว์ป่าที่ขายอยู่ในตลาด
นายหวัง อี้ รมว.กระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในประเทศ ถือเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดอันดับแรกของรัฐบาลในตอนนี้ และ หน่วยงานทุกแห่งของกระทรวงการต่างประเทศ ได้ยกระดับการประสานงานกับสถาบันที่เกี่ยวข้องของทุกประเทศซึ่งมีพลเมืองอยู่ในจีน เพื่อยืนยันว่าจะรักษาความปลอดภัยให้กับพลเมืองของประเทศนั้นๆนจีนอย่างดีที่สุด เรื่องการก่อสร้างโรงพยาบาลฉุกเฉินในเมือง 3 แห่ง อย่างเร่งด่วน เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนานั้น ขณะนี้ทีมวิศวกรมั่นใจว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จก่อนกำหนดอย่างแน่นอน จากเดิมจะต้องสร้างเสร็จภายในวันที่ 3 ก.พ โดยจากการประเมินงานก่อสร้างล่าสุด คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 1 ก.พ.
โดยโรงพยาบาลแห่งแรกจะมีขนาด 1500 เตียงผู้ป่วย และ แห่งที่ 2 มีขนาด 1000 เตียง ขณะที่แห่งที่ 3 จะมีขนาดใหญ่สุดราว 30,000 ตารางเมตร ซึ่งมีกำหนดก่อสร้างเสร็จพร้อมใช้งานอีก 15 วัน จะมีอาคาร 2 หลัง เตียงผู้ป่วย 1,500 หลัง และรองรับบุคลการทางการแพทย์ 2000 คน