รัสเซีย จีน และฝรั่งเศส ล้วนเป็นสมาชิกถาวร คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
รัสเซีย จีน และฝรั่งเศส ล้วนเป็นสมาชิกถาวร คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายอดกลั้น หลังจากสหรัฐและอิหร่านต่างเผชิญหน้าทางการทหารต่อกัน โดยเฉพาะเมื่อนายทรัมป์สั่งโจมตีทางอากาศที่สนามบินกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก สังหารนายพลกอเซม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน และทหาร นักรบอื่นๆ รวม 8 ราย
“เรากำลังตื่นขึ้นมาในโลกที่อันตรายกว่าเดิม การเพิ่มความตึงเครียดทางทหารอันตรายเสมอ และปฏิบัติการเช่นนั้นเกิดขึ้นเมื่อใด ก็เพิ่มความตึงเครียดเมื่อนั้น” น.ส.อาเมลี เดอ มงค์ชาแลง รมช.ต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ประณามการสังหารดังกล่าว ว่าเป็นการเพิ่มความตึงเครียดไปทั้งภูมิภาค ขณะที่นายเกิง ส่วง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวว่า สันติภาพในตะวันออกกลางและอ่าวเปอร์เซีย ควรได้รับการเอาใจใส่ เหตุการณ์นี้น่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง
อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน เตือนว่าจะมีการต่อต้านอาชญากรมือเปื้อนเลือด อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับ นายฮัสซัน เราฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่าน และชาติเสรีชนในภูมิภาคจะล้างแค้นอาชญากรอเมริการ่วมกัน
เหตุการณ์นี้สร้างความโกรธแค้นให้ชาวอิรักที่สนับสนุนอิหร่าน รวมถึงสมาชิกกองกำลังฮาเชด อัล-ชาอาบี นำผู้ประท้วงบุกโจมตีและเผาสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงแบกแดด วันที่ 31 ธ.ค. และ 1 ม.ค. แม้ภายหลังจะถอนกำลังออกมาแล้ว นายทรัมป์กลับส่งข้อความอาฆาต และสั่งให้โจมตีเป้าหมายที่สนามบินกรุงแบกแดดในที่สุด