กฎหมายสถานะพลเมืองใหม่ เป็นกฎหมายที่เอื้อให้ผู้อพยพจากอัฟกานิสถาน บังคลาเทศ
กฎหมายสถานะพลเมืองใหม่ เป็นกฎหมายที่เอื้อให้ผู้อพยพจากอัฟกานิสถาน บังคลาเทศ และปากีสถาน มีช่องทางได้สัญชาติอินเดีย ยกเว้นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม โดยรัฐบาลอินเดียให้เหตุผลว่า ชาวมุสลิมไม่ใช่ชนกลุ่มน้อยในประเทศทั้ง 3 นี้ และไม่มีปัญหาที่ทำให้ต้องอพยพออกจากประเทศ
กฎหมายดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับทั้งชาวมุสลิมและชาวฮินดู โดยชาวมุสลิมมองว่ากฎหมายนี้อาจจะทำให้พวกเขากลายเป็นพลเมืองชั้นสองในอินเดีย ประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดู ในขณะที่ผู้ประท้วงคนอื่น เช่น นักศึกษา นักการเมือง และนักรณรงค์เคลื่อนไหว มองว่า โมดี กำลังทำร้ายรัฐธรรมนูญของอินเดียที่แยกศาสนาออกจากการปกครองประเทศ
สมาชิกพรรค BJP ของโมดี บอกว่าตอนนี้พวกเขาต้องยื่นมือไปขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรและพรรคฝ่ายค้าน ที่ถูกมองข้ามไปในขั้นตอนการผ่านกฎหมายฉบับนี้ และยังได้ส่งผู้สนับสนุนพรรคไปพูดคุยกับชุมชนเพื่อลดความไม่พอใจต่อกฎหมายใหม่
นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ขึ้นเวทีปราศรัยในกรุงนิวเดลี พร้อมกล่าวย้ำว่ากฎหมายสัญชาติฉบับใหม่ไม่ได้ต่อต้านชาวมุสลิมและไม่ได้เลือกปฏิบัติทางศาสนา พร้อมทั้งโจมตีฝ่ายค้านที่บิดเบือนความจริงเพื่อจุดชนวนให้เกิดการประท้วง ท่ามกลางประชาชนหลายพันคนที่ออกมาสนับสนุนพรรค BJP ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลและนายกรัฐมนตรีอินเดีย
กานชยาม ทิวารี (Ghanshyam Tiwari) นักศึกษาที่ชุมนุมประท้วงในเมืองลัคนาว ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า รัฐบาลของโมดีไม่สามารถสร้างงานได้ จึงหันมาออกกฎหมายที่น่ากังวลอย่างกฎหมายสถานะพลเมือง
การประท้วงกฎหมายสถานะพลเมืองใหม่ มีพรรคคองเกรสซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านเป็นผู้สนับสนุน พรรคครองเกรสครองอำนาจในการเมืองอินเดียมากว่า 70 ปี ก่อนจะพ่ายแพ้ไปในการเลือกตั้งสองครั้งล่าสุด
พรรคคองเกรสกล่าวว่า นี่จะเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้ที่ต้องการเห็นศาสนาและการเมืองแยกออกจากกัน และโมดี ที่มีนโยบายหนุนฮินดู
ผู้นำระดับสูงคนหนึ่งของพรรคคองเกรสบอกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่อินเดียออกกฎหมายโดยใช้ศาสนามาเป็นตัวกำหนด แต่ตอนนี้ เห็นแล้วว่า ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลของโมดี ที่จะทำให้อินเดียกลายเป็นประเทศของผู้นับถือศาสนาฮินดู ได้ย้อนกลับมาทำร้ายโมดีเสียเอง