แม้จะเป็นการขัดแย้งกันของฝ่ายซ้าย และฝ่ายขวา ที่มีเหมือนกันทุกประเทศ แต่ที่นี่กลับรุนแรงยิ่งกว่าที่ใดๆ
แม้จะเป็นการขัดแย้งกันของฝ่ายซ้าย และฝ่ายขวา ที่มีเหมือนกันทุกประเทศ แต่ที่นี่กลับรุนแรงยิ่งกว่าที่ใดๆ ทั้งสองฝ่ายไม่มีวันประนีประนอมและอยู่ร่วมกันได้ เพราะพวกเขาเกลียดและแค้นกันในระดับที่เอาชีวิตกันได้ง่ายๆ
การลุกขึ้นประท้วงรัฐบาล, การใช้อาวุธเคมี, เล่นไม้หนักกับผู้ชุมนุม และความไม่สงบต่างๆ นานา เท่าที่คุณจะนึกออก คุณสามารถพบได้ใน “ซีเรีย” ทั้งสิ้น ...
เรื่องมันเริ่มจากการปกครองประเทศแบบเบ็ดเสร็จ ด้วยระบอบที่หลายคนเรียกว่าเผด็จการของตระกูล อัล-อะซัด ซึ่งกินเวลามาหลายสิบปี และแน่นอนคำว่าเผด็จการนั้นหมายถึงการไม่ยอมให้คนที่เห็นต่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ หากว่าใครขัดขืนรับรองได้เลยว่าพวกเขาจะได้ไป "เฝ้าพระเจ้า" ซึ่งในความหมายของคนทั่วโลกคือ "ตายสถานเดียว"
อย่างไรก็ตามไม่มีสิ่งใดในโลกที่คงอยู่ได้ตลอดไป ตระกูล อัล-อะซัด ก็เช่นกัน เมื่อระยะแห่งการกดขี่ยืดยาวไม่มีหยุดทำให้คนที่อยู่ฝั่งต่อต้านรู้ปลายทางของพวกเขาเป็นอย่างดีว่า สู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย ... ดังนั้นการลุกขึ้นสู้ด้วยอุดมการณ์ คือ สิ่งที่ทำให้พวกเขายินดีที่จะทำ แม้ต้องแลกกับชีวิตก็ตาม
อุดมการณ์ดังกล่าวถูกส่งผ่านไปทีละนิด ทีละนิด จนกระทั่งกลายเป็นการลุกฮือของกลุ่มต่อต้านแบบเต็มรูปแบบ ไม่เว้นแม้กระทั่งกับคนวัยรุ่น ที่อยู่ในช่วงวัยแห่งความสนุกและความฝันอย่าง อับเดล-บาสเซ็ต อัล-ซารูต (Abdel-Basset al-Sarout)
การสูญเสีย คือ สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนลุกขึ้นสู้โดยไม่สนเหตุผล และไม่แคร์ว่าปลายทางจะจบอย่างไร ในปี 2011 สงครามกลางเมือง Homs รุนแรงจนถึงขั้นไม่ได้ใช้กันแค่ปืนเท่านั้น มีระเบิด รถถัง และการใช้กองกำลังระดับกองทัพเข้าปราบปราม จนสุดท้ายพี่ชายของ อัล-ซารูต เสียชีวิตจากสงครามทั้ง 4 คน รวมถึงพ่อของเขาด้วย
ณ นาทีนั้น อัล-ซารูต รู้แล้วว่าในประเทศแห่งนี้ กีฬา และ การเมือง เกี่ยวข้องกัน และไม่มีทางไปด้วยกันได้ เพราะหลังจากเขาเข้าร่วมรบในสงครามกลางเมือง สโมสรก็ไล่เขาออกจากทีมทันที
"ผู้ก่อการร้ายอย่าง ซารูต ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสโมสรแห่งนี้" นี่คือแถลงการณ์จากสโมสร Al Kamarah ที่ตัดสัมพันธ์กับ อัล-ซารูต แต่ ณ เวลานี้เขาไม่แคร์อีกต่อไป การสูญเสียคนในครอบครัว เปลี่ยนให้เขาเดินหน้าเข้าสู่เส้นทางนักปฎิวัติแบบเต็มตัว
"ซารูต กลายเป็นคนแรกที่ก้าวขึ้นมาปกป้องครอบครัวของเขาและผู้คนในหมู่บ้าน หรือที่เราเรียกว่า อัล บายาดาห์" ฮาดิ อัลอับดัลลาห์ หนึ่งในผู้ร่วมกองทัพปฎิวัติแห่ง Homs เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ซึ่งนำมาสู่การปราบกบฎ Homs เต็มรูปแบบ สุดท้ายเขาต้องหนี เพราะรัฐบาลตั้งค่าหัวของเขาไว้สูงลิบเพื่อจับตาย
"เราเป็นกลุ่มคนที่รัฐบาลต้องการจะฆ่าทิ้ง นั่นหมายความว่าตัวตนของเราแข็งแกร่งยิ่งกว่าอาวุธ ซึ่งจริงๆ แล้วพวกเราไม่เคยคิดจะจับอาวุธขึ้นสู้หรอก แต่หลังจากที่เราแสดงพลังของการชุมนุมให้โลกได้เห็น จนกระทั่งวันหนึ่งเราไม่มีทางเลือกอีกต่อไป แต่เพื่อปกป้องดินแดนและเกียรติยศ เราต้องป้องกันตัวเอง ไม่มีอะไรที่น่าละอายใจกับการป้องกันตัว นี่คือบัญญัติจากพระเจ้า"
บัญญัติจากพระเจ้าทำให้เขาโดนลอบฆ่า 3 ครั้งในปี 2014 รัฐบาล ซีเรีย ระบุว่ากลุ่มกบฎของ อัล-ซารูต คือ หนึ่งในการชักใยของกลุ่มผู้ก่อการร้าย IS (กลุ่มกบฏอีกกลุ่มที่ต่อสู้แบบกองโจรกับรัฐบาลซีเรีย ซึ่งกลุ่มนี้ยึดถือแนวคิดของศาสนาอิสลามแบบสุดโต่งและหัวรุนแรง) ซึ่ง อัล-ซารูต ยืนยันว่ามีคำเชิญชวนจาก IS เข้ามาจริงๆ โดยทาง IS พร้อมจะสนับสนุนกลุ่มของเขาหาก อัล-ซารูต ยอมสวามิภักดิ์ แต่เขาก็เลือกจะปฏิเสธความช่วยเหลือนี้มาโดยตลอด