ประชาชนกว่า 1 หมื่น 3 พันคนร่วมเดินขบวนในพื้นที่ทางเหนือของกรุงปารีสในวันอาทิตย์ (10 พ.ย.) เพื่อแสดงท่าทีต่อต้านกระแสกลัวอิสลาม (Islamophobia) หลังจากที่เมื่อเดือนที่แล้วเกิดเหตุอดีตนักการเมืองแนวคิดขวาจัด ก่อเหตุโจมตีมัสยิดในเมืองทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 คน และทำให้มีความกังวลเกี่ยวกับความไม่ปลอดภัยของชาวมุสลิมมากขึ้น และมีข้อเสนอให้ทางการฝรั่งเศสออกประกาศห้ามสตรีมุสลิมใช้ผ้าคลุมศีรษะหรือฮิญาบ เพราะอาจตกเป็นเป้าหมายการถูกทำร้าย
ผู้เข้าร่วมการประท้วงหลายคนชูป้ายข้อความต่อต้านการโจมตี ซึ่งมีแกนนำเป็นกลุ่มองค์กรเอกชนหลายกลุ่มที่ระบุว่า การชุมนุมมีเป้าหมายเพื่อที่จะบอกกับผู้ที่มีความเกลียดชังว่า ฝรั่งเศสเปิดกว้างเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ การแสดงความคิดเห็น แต่ต้องไม่ก้าวข้ามไปถึงการโจมตี และทำร้ายผู้อื่น
ฝรั่งเศสมีประชากรมุสลิมประมาณ 5–6 ล้านคน ซึ่งทำให้ศาสนาอิสลามมีผู้นับถือมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และเป็นชุมชนมุสลิมขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป เมื่อปี 2554 ฝรั่งเศสมีข้อห้ามใช้ผ้าคลุมหน้า หรือที่เรียกว่าบูร์กา ซึ่งเป็นข้อบังคับที่มีความหมายครอบคลุมไปถึงการห้ามทุกคนใช้ผ้าคลุมใบหน้าในทุก ๆ กรณีในที่สาธารณะ แต่ก็ทำให้สตรีมุสลิมจำนวนมากไม่พอใจ และเห็นว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ