ทรัมป์ประกาศ “ผู้นำไอเอส” จุดชนวนระเบิดสังหารตัวเอง หนีการจับกุม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศผ่านการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอาทิตย์ว่า นายอาบู บักร์ อัล-แบกดาดี หัวหน้าใหญ่ของกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม หรือไอเอส ถูกสังหารเสียชีวิตแล้ว ในปฏิบัติการบุกจู่โจมของกองกำลังปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐในจังหวัดอิดลิบ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐ ถือเป็นความพ่ายแพ้และสูญเสียครั้งใหญ่ต่อนักรบศักดิ์สิทธิ์กลุ่มนี้ โดยนายแบกดาดีระเบิดสังหารตัวเองระหว่างการบุกจู่โจม หลังหลบหนีเข้าไปในอุโมงค์ที่ไม่มีทางออก พร้อมทั้งส่งเสียงครวญคราง ร้องให้ และกรีดร้องตลอดทาง ขณะที่เขาถูกสุนัขทหารสหรัฐไล่ตาม และมีการตรวจพิสูจน์ ดีเอ็นเอ เพื่อยืนยันตัวตน 15 นาทีหลังเขาเสียชีวิต

ในการแถลงข่าวที่ไม่ปกติเช้าวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า นายแบกดาดีไปพร้อมกับลูก 3 คน และจุดชนวนระเบิดที่ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อกั๊ก สังหารทุกคนที่ไปกับเขา เหตุระเบิดทำให้ร่างของนายแบกดาดีกระจัดกระจาย แต่ก็ต้องตรวจดีเอ็นเอ เพื่อยืนยันตัวตนของเขา

ทรัมป์บอกว่า คนของบักร์ดาดีหลายคน ถูกสังหาร และในการระเบิดตัวเอง นายบักร์ดาดี ยังสังหารลูก ๆ ของเขาอีก 3 คนร่างแหลกเหลวด้วย ส่วนสหรัฐไม่ได้สูญเสียทหารแม้แต่นายเดียว มีเพียงสุนัขทหารที่บาดเจ็บ ทรัมป์ยังขอบคุณรัสเซีย, ตุรกี, ซีเรีย และอิรัก สำหรับการสนับสนุนของพวกเขา

นายบักร์ดาดีเป็นที่ต้องการตัวของสหรัฐนานแล้ว ในฐานะหัวหน้ากลุ่มนักรบศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยยึดครองพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลของซีเรียและอิรัก และประกาศสถาปานาพื้นที่ยึดครองเป็นรัฐเคาะลีฟะฮ์ ใช้หลักศาสนาปกครอง ประชาชนในพื้นที่ที่พวกเขายึดครองเกือบ 8 ล้านคนอย่างโหดเหี้ยม ตามอุดมการณ์สุดโต่งทางศาสนาในปี 2557

นักรบไอเอสปฏิบัติการป่าเถื่อนเข่นฆ่าชนกลุ่มน้อยทางศาสนาและอยู่เบื้องหลังการโจมตีเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวมุสลิมกระแสหลัก ไอเอสปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หลายครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน

สหรัฐประกาศชัยชนะเหนือกลุ่มนักรบไอเอสเมื่อต้นปีนี้ การสังหารนายบักร์ดาดี ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของทรัมป์ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกรณีที่เขาตัดสินใจถอนกำลังทหารสหรัฐออกจากภาคเหนือของซีเรียเมื่อต้นเดือนนี้ และกำลังต่อสู้กับการถูกถอดถอน หรืออิมพีชเมนต์ ออกจากตำแหน่งโดยพรรคเดโมแครต

ที่กบดานของนายบักร์ดาดีอยู่ในจังหวัดอิดลิบ ห่างจากที่ที่เชื่อว่าเขาหลบซ่อนตัวอยู่ตามแนวพรมแดนซีเรีย-อิรัก ทั้งนี้ หลายพื้นที่ของจังหวัดอิดลิบ อยู่ภายใต้การควบคุมของนักรบศักดิ์สิทธิ์ที่ต่อสู้กับกลุ่มไอเอส แต่กลุ่มนักรบคู่แข่งต้องสงสัยว่าให้ที่พักพิงแก่นักรบไอเอส นายบักร์ดาดี อยู่ภายใต้การเฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวมาประมาณ 2 สัปดาห์ และการบุกจู่โจมหลายครั้งถูกยกเลิก เพราะการย้ายที่อยู่ของเขา

ทรัมป์บอกว่า ไม่มีทหารสหรัฐเสียชีวิต แต่มีสาวกของบักร์ดาดีหลายคนเสียชีวิตด้วย ขณะที่อีกส่วนหนึ่งถูกจับกุมตัว

ส่วนชาวบ้านคนหนึ่งในเมืองบาริชา ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ กล่าวกับบีบีซีว่า เฮลิคอปเตอร์สาดกระสุนนาน 30 นาทีในช่วงดึกวันเสาร์ ก่อนทหารจะเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดิน โดยเฮลิคอปเตอร์ยิงบ้าน 2 หลัง ซึ่งหลังหนึ่งเสียหายยับเยิน

กองกำลังที่นำโดยนักรบชาวเคิร์ดซีเรีย หนึ่งในพันธมิตรสำคัญของสหรัฐในภาคเหนือของซีเรีย ก่อนทรัมป์ถอนกำลังทหารสหรัฐออกจากพื้นที่ในเดือนนี้ กล่าวว่า พวกเขาก็เข้าร่วมปฏิบัติการครั้งประวัติศาสตร์นี้ด้วย ซึ่งทรัมป์ก็ชื่นชมยกย่องพวกเขา และรัสเซีย, อิรัก, ตุรกีและซีเรียด้วยที่ให้การสนับสนุนปฏิบัติการครั้งนี้

ตามคำบอกเล่าของทรัมป์ ระบุว่า รัสเซียเปิดปฏิบัติการทางอากาศสำหรับการจู่โจมครั้งนี้ และพันธมิตรชาวเคิร์ดก็ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ส่วนทรัมป์เฝ้าดูปฏิบัติการครั้งนี้ในห้องสถานการณ์ (Situation Room) ของทำเนียบขาว พร้อมกับรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ

สำหรับนายบักร์ดาดี ซึ่งมีชื่อจริงว่า อิบราฮิม ออว์วัด อิบราฮิม อัล-บาดรี มีชื่อเสียงด้านการวางกลยุทธในการสู้รบอย่างป่าเถื่อนไร้ปรานี เขาเป็นคนที่ถูกต้องการตัวมากที่สุดในโลก โดยในเดือนตุลาคม 2554 สหรัฐขึ้นบัญชีดำบักร์ดาดีเป็นผู้ก่อการร้ายอย่างเป็นทางการ พร้อมตั้งค่าหัวเป็นเงิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้แจ้งเบาะแสนำไปสู่การจับกุมไม่ว่าจะจับเป็นหรือจับตาย และเพิ่มค่าหัวเป็น 25 ล้านดอลลาร์ในปี 2560

บักร์ดาดีเกิดใกล้กับเมืองซามาร์รา ภาคเหนือของอิรัก ในปี 2514 และในรายงานบอกด้วยว่า เขาเป็นผู้นำทางศาสนาในมัสยิดแห่งหนึ่งในเมืองในช่วงเวลาที่กองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐ บุกอิรักในปี 2546 ด้วย

บางคนเชื่อว่า เขาผันตัวเองมาเป็นนักรบศักดิ์สิทธิ์แล้วระหว่างการปกครองของซัดดัม ฮุสเซน อดีตผู้นำเผด็จการของอิรัก และมีบางคนบอกว่า เขาบ่มเพาะแนวความคิดหัวรุนแรงระหว่างที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ค่ายบักกา ฐานทัพสหรัฐในภาคใต้ของอิรัก ที่ซึ่งมีแกนนำของกลุ่มอัลกออิดะห์ถูกควบคุมตัวอยู่ด้วย

ไอเอสสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลกด้วยการตัดศีรษะชาวต่างชาติจำนวนมากจากหลายประเทศ ซึ่งรวมทั้งสหรัฐ, อังกฤษและญี่ปุ่น และกลุ่มนี้ยังอ้างความรับผิดชอบสำหรับการโจมตีในหลายสิบเมือง ซึ่งรวมทั้งกรุงปารีส, นีช, ออร์ลันโด, แมนเชสเตอร์, กรุงลอนดอน และกรุงเบอร์ลิน รวมทั้งในตุรกี, อิหร่าน, ซาอุดีอาระเบียและอียิปต์ด้วย

แต่ในปี 2560 กลุ่มไอเอสสูญเสียการควบคุมเมืองโมซุลในอิรักและรักกาในซีเรีย จากนั้นก็สูญเสียพื้นที่ส่วนใหญ่อย่างรวดเร็ว ทำให้นายบักร์ดาดี ต้อกลายสภาพเป็นผู้ลี้ภัย หนีหัวซุกหัวซุน

ในระหว่างการกวาดล้างนาน 3 ปีที่ผ่านมาของกองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐ การปฏิบัติการโจมตีทางอากาศสังหารแกนนำไอเอสได้เกือบทั้งหมด และมีรายงานที่สับสนว่า นายบักร์ดาดีมีชีวิตอยู่หรือไม่ จนกระทั่งไอเอสได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของเขาในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม แม้ว่จะสูญเสียดินแดนส่วนใหญ่ แต่ไอเอสก็เชื่อว่ามีเครือข่ายซ่อนตัวอยู่ทั่วโลก และมีนักรบจำนวนหนึ่งที่ปฏิบัติการจากแหล่งกบดานในทะเลทรายของซีเรียและในหลายเมืองของอิรัก