ชาวโก-ลกวอนรัฐบาลประยุทธ์เร่งแก้วิกฤตเศรษฐกิจฟุบหนัก หลังกระทบจาก 7 ประเด็นหลัก
ผู้สื่อข่าวได้ตระเวนสำรวจบรรยากาศในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ตลอดทั้งวัน (16 ต.ค.62) ที่ผ่านมา หลังชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งผู้ประกอบการ รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่หาเช้ากินค่ำส่วนใหญ่กล่าวด้วยความรู้สึกเดียวกันว่า ที่ผ่านมาเป็นเวลาหลายปีตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเวลากว่า 15 ปี ที่คนในพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างหนัก เนื่องจากเศรษฐกิจซบเซาลงเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ไม่มีทีท่าว่าจะกระเตื้องขึ้นมา โดย น.ส.ดวงใจ แก้วตา แม่ค้าที่เปิดร้านจำหน่ายเสื้อผ้าในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก กล่าวว่า ตนเองเปิดร้านขายเสื้อผ้าสตรีมาเป็นเวลาหลายปี ตั้งแต่ปี 2556 เนื่องจากมีความหวังว่าสถานการณ์ในพื้นที่น่าจะกลับคืนสู่ความสงบและเศรษฐกิจกลับเฟื่องฟูอีกครั้ง แต่รอแล้วรอเล่า กลับกลายเป็นว่ายิ่งทรุดหนักลงเรื่อยๆ จนถึงขั้นวิกฤต และไม่ใช่ตนเองคนเดียงที่ได้รับผลกระทบแต่ร้านค้าต่างๆรวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันหมด ทุกวันนี้ทำมาหากินแบบวันต่อวัน ต้องหมุนเงินเพื่อให้มีพอใช้จ่าย
ทั้งนี้จากการสอบถามไปยังแหล่งข่าวทางธุรกิจในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เปิดเผยถึงสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจทรุดหนัก จนร้านค้าต้องปิดตาย มาจาก 7 ประเด็นหลักสำคัญ คือ 1.ค่าเงินของไทยแข็งขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเงินมาเลย์ มาเลเซีย 10 บาท/ไทย 7 บาท ทำให้นักท่องเที่ยวจากมาเลย์ชะลอการเดินทางมายังโก-ลก โดยหันเหไปเที่ยวที่ อ.เบตง จ.ยะลาแทน 2.รูปแบบการใช้จ่ายของผู้บริโภคเปลี่ยนไป จากที่เคยใช้บริการตามร้านค้า หันไปใช้บริการออนไลน์ หรือผ่านบัตรเครดิตต่างๆมากขึ้น โดยไม่ต้องพกเงินสด 3.ราคายางพาราตกต่ำ โดยชาวสวนยางต่างพากันรอคอยความหวังว่ารัฐบาลจะผลักดันและปรับราคาให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและจริงจัง 4.กระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ดิ่งลงเหว 5.ผู้มีอันจะกินในเมืองโก-ลกนิยมบริการ Delivery ส่งตรงถึงบ้าน ทำให้ร้านอาหารต่างๆเงียบเหงาและต้องปิดตัวลง 6.หญิงบริการและเด็กเสิร์ฟตามร้านอาหารและคาราโอเกะที่ส่วนใหญ่มาจากภาคอื่นเดินทางกลับบ้านเกิด กระทบกับผู้ประกอบการที่ต้องปิดกิจการ และ 7.จากการที่เจ้าหน้าที่คุมเข้มทั้งสถานการณ์รวมทั้งการกระทำผิดกฎหมายทุกช่องทางตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเข้มงวด ทั้งๆ ที่โก-ลกเป็นเมืองชายแดน
อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการรายนี้ยังได้ฝากไปถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้งคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งผลักดันและแก้ปัญหาเศรษฐกิจของบรรดาผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยและชาวบ้านตาดำๆ ที่ต้องอยู่อย่างรอความหวังว่าเมื่อไหร่เมืองโก-ลกจะกลับมาคึกคักเหมือนเช่นอดีตที่ผ่านมาเสียที
