ฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านอนุมัติลงนามร่างกฎหมายประกาศให้กำลังพลทุกนายของสหรัฐฯในตะวันออกกลางเป็นผู้ก่อการร้าย
ฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านอนุมัติลงนามร่างกฎหมายประกาศให้กำลังพลทุกนายของสหรัฐฯในตะวันออกกลางเป็นผู้ก่อการร้ายและเรียกรัฐบาลอเมริกาว่าเป็นผู้สนับสนุนก่อการร้าย ภายหลังสหรัฐฯเตรียมคว่ำบาตรประเทศที่ซื้อน้ำมันจากอิหร่าน
1 พฤษภาคม 2562-ฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้ลงนามอนุมัติร่างกฎหมายฉบับที่บังคับใช้เป็นกฎหมายเมื่อวันอังคารที่30เม.ย.ประกาศให้กำลังพลทุกนายของสหรัฐฯในตะวันออกกลางเป็นก่อการร้ายและเรียกรัฐบาลอเมริกาว่าเป็นผู้สนับสนุนก่อการร้าย และ ยืนยันอิหร่านจะเดินหน้าส่งออกน้ำมันต่อไป แม้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯมีเป้าหมายลดการส่งออกน้ำมันดิบของประเทศให้เหลือศูนย์
ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยสมาชิกสภานิติบัญญัติของอิหร่านได้เห็นชอบร่างกฎหมายที่ระบุให้ กองกำลังทหารสหรัฐฯ ทั้งหมดอยู่ในสถานะ “ผู้ก่อการร้าย” ภายหลังจากที่สหรัฐอมเริกา เพิ่มแรงกดดัน รัฐบาลอิหร่าน ด้วยการคาดโทษ ประเทศคู่ค้าน้ำมันกับอิหร่าน ซึ่งจะได้รับการคว่ำบาตรจากสหรัฐอเมริกา
ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการยืนยันการขึ้นบัญชีก่อนหน้านี้ของอิหร่านต่อหน่วยบัญชาการกลางสหรัฐฯ หรือที่รู้จักกันในชื่อ CENTCOM และกองกำลังทั้งหมดเป็น “องค์กรก่อการร้าย” ความช่วยเหลือทางทหารและที่ไม่ใช่ทางทหาร รวมถึงการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ แก่ CENTCOM ที่สามารถเป็นอันตรายต่อ IRGC จะถือเป็นการกระทำ “ก่อการร้าย”
นอกจากนี้สภานิติบัญญัติของอิหร่านยังขอให้หน่วยงานข่าวกรองของอิหร่านจัดทำรายชื่อผู้บัญชาการ CENTCOM ทั้งหมดภายในสามเดือน เพื่อให้ผู้พิพากษาของอิหร่านสามารถดำเนินคดีลับหลังกับพวกเขาได้ว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย” โดยร่างกฎหมายนี้ได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้ายตามรัฐธรรมนูญของอิหร่านเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้ว
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าว กำลังทำให้สถานการณ์ความบาดหมางระหว่าง 2 ประเทศ ก้าวเข้าสู่คตวามรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยสมาชิกสภานิติบัญญัติอิหร่านได้อนุมัติให้ขึ้นบัญชีกองทหารสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางเป็น “ผู้ก่อการร้าย” อันเป็นการตอบโต้ต่อการที่สหรัฐขึ้นบัญชีกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ในฐานะกลุ่มก่อการร้ายเมื่อเดือนก่อนหน้านี้
กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน(IRGC) มีกำลังพลราว 125,000 นาย อันประกอบด้วยทั้งทัพบก ทัพเรือ และทัพอากาศ นอกจากนี้แล้ว (IRGC) ยังบัญชาการกองกำลังบาซีจ(Basij) ซึ่งเป็นทหารอาสาสมัครอิสลาม มีกำลังพลทั้งชายและหญิงราว 90,000 คน และควบคุมโครงการขีปนาวุธของอิหร่าน ขณะที่หน่วยคุดส์(Quds) ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติ เป็นกองกำลังที่มีภารกิจในต่างแดน สู้รบในสงครามตัวแทนของอิหร่านในภูมิภาค
สำหรับการขึ้นบัญชีดำของสหรัฐต่อ IRGC (ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในการขึ้นบัญชีต่อหน่วยงานของประเทศอื่น) เป็นการเพิ่มแรงคว่ำบาตรอีกชั้นหนึ่งต่อกองกำลังทหารที่ทรงอำนาจ ทำให้กลายเป็นอาชญากรรมภายใต้เขตอำนาจศาลของสหรัฐฯ เพื่อตัดการสนับสนุนด้านวัตถุ-ยุทโธปกรณ์ต่อ IRGC
ตามรายงานระบุว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย.62 ที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารของทรัมป์ประกาศว่า จะขยายมาตรการคว่ำบาตรต่อประเทศที่นำเข้าน้ำมันอิหร่าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการมาตรการเพื่อเพิ่ม “แรงกดดันสูงสุด” ที่มีเป้าหมายเพื่อกำจัดรายได้จากการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน
ที่ผ่านมา สหรัฐฯเคยขึ้นบัญชีดำหน่วยงานหลายสิบแห่งและบุคคลต่างๆที่มีความเกี่ยวข้องกับกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน แต่ไม่เคยขึ้นบัญชีดำทั้งองค์กร จนกระทั่งความเคลื่อนไหวล่าสุดของทรัมป์ ท่ามกลางความตึงเครียดที่มีมาอย่างช้านานระหว่างเตหะรานกับวอชิงตัน ดำดิ่งเข้าสู่สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อน หลังประธานาธิดบีทรัมป์ ถอนสหรัฐฯข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ระหว่างอิหร่านกับ 6 ชาติมหาอำนาจ ซึ่งตกลงกันได้ก่อนที่เขาจะก้าวเข้ามารับตำแหน่ง และกลับมาคว่ำบาตรเตหะรานอีกรอบ
พวกผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่านย้ำมาตลอดว่าฐานทัพต่างๆของสหรัฐฯในตะวันออกกลางและเรือบรรทุกเครื่องบินของอเมริกาในอ่าวเปอร์เซียอยู่ในพิสัยทำการของขีปนาวุธอิหร่าน
คุณอาจกำลังสนใจสิ่งนี้
- แฉยับ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ไม่ใช่สิ่งลี้ลับ เป็นแค่ปรากฏการณ์ธรรมชาติ
- ลิเบียวุ่นหนัก ปะทะเดือดใกล้เมืองหลวง ดับแล้วอื้อ ไร้ที่อยู่นับพัน
- แจงข่าว นทท. เซลฟี่เครื่องบินแลนดิ้งที่หาดไม้ขาว ไม่ถึงขั้นโดนโทษประหารชีวิต
- เนทันยาฮูลั่น!! ฆ่าผู้ประท้วงกาซ่า 300 คน เป็นการตัดสินใจที่ “ฉลาด”
- อิหร่านจมบาดาล น้ำท่วมใหญ่ คร่ากว่า 60 ศพ
ที่มา thaitribune