ลูกชายขครูสอนศาสนาอิสลามสายสุดโต่งชาวอียิปต์ สัญชาติอังกฤษ ฉายา “มือตะขอตาเดียว”ซึ่งถูกศาลสหรัฐอเมริกาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตตามความผิดในข้อหาให้การสนับสนุนการก่อการร้าย
วันที่ 22 ก.พ. เดอะซัน รายงานว่า นายซุฟยัน มุสตาฟา ลูกชายของ นายอาบู ฮัมซา ครูสอนศาสนาอิสลามสายสุดโต่งชาวอียิปต์ สัญชาติอังกฤษ ฉายา “มือตะขอตาเดียว”ซึ่งถูกศาลสหรัฐอเมริกาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตตามความผิดในข้อหาให้การสนับสนุนการก่อการร้าย และปลุกระดมสร้างความเกลียดชังทางศาสนา ตั้งแต่ปี 2558 กล่าวว่าต้องการกลับบ้านที่อังกฤษ และจะอุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนสัญชาติอังกฤษ หลังมีชื่อในบัญชีพัวพันการก่อการร้าย
นายมุสตาฟา ลูกชายคนที่ 7 ของนายฮัมซา เดินทางจากบ้านในเขตตะวันตกของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อไปร่วมสมรภูมิสงครามกลางเมืองซีเรียในปี 2551 ขณะอายุ 19 ปี
แม้นายมุสตาฟาจะอ้างถึงเหตุผลที่ไปซีเรียเพราะต้องการต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการของ ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด และเข้าร่วมกับกองกำลังติดอาวุธต่อต้านนายอัสซาด แต่รัฐบาลอังกฤษประเมินว่านายมุสตาฟาเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย และถอนสัญชาติอังกฤษ
ถึงอย่างนั้นนายมุสตาฟาก็พยายามเดินทางกลับบ้าน เมื่อปีที่ผ่านมานายมุสตาฟาเดินทางไปตุรกีเพื่อโดยสารเครื่องบินไปอังกฤษ แต่ถูกสกัดกั้นเนื่องจากมีชื่อในบัญชีเฝ้าระวังผู้ก่อการร้าย
ด้านแหล่งข่าวทางการอังกฤษะบุว่านายมุสตาฟาได้รับอนุญาตให้อพยพในโมรอกโกได้ ส่งผลให้นายมุสตาฟาไม่อยู่ในสถานะไร้สัญชาติ และนั่นทำให้กระทรวงมาตุภูมิอังกฤษไม่มีหน้าที่จำเป็นต้องอนุญาตให้นายมุสตาฟากลับมาอังกฤษ
ความเคลื่อนไหวของนายมุสตาฟาเกิดขึ้นในช่วงที่ น.ส.ชามีมา บีกัม สาวอังกฤษวัย 19 ปี ที่ลักลอบเดินทางไปซีเรียเพื่อแต่งงานกับนักรบ กองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรีย เรียกร้องขอให้ตนและลูกชายที่เพิ่งเกิด สามารถกลับไปอยู่ที่อังกฤษได้
เช่นเดียวกับ น.ส.โฮดา มูธานา วัย 24 ปี สาวอเมริกันซึ่งเข้าร่วมและแต่งงานกับนักรบไอเอส ซึ่ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศชัดไม่อนุญาตให้น.ส.มูธานากลับเข้าประเทศ
- สาวอังกฤษ “เมียไอเอส” คลอดลูกแล้ว ญาติวอนขอกลับประเทศ รมว.มั่นคงลั่นกีดกันทุกทาง (คลิป)
- ชายหนุ่ม สั่งพิซซ่า ร้านเดิมทุกวัน จู่ๆ หายไปนาน 11 วัน พนักงานสาวเลยบุกถึงบ้าน สุดท้ายพบนอนหมดสติคาบ้านพัก
- 'ทรัมป์' เซอร์ไพรซ์โลก สั่งถอนทหารมะกันทั้งหมดออกจาก 'ซีเรีย'
- นุ๊ก สุทธิดา จัดเต็มสังคมแม่ๆ 'เส้นบางๆระหว่างความจริงใจกับความตอแหล'
www.khaosod.co.th