ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ได้ยื่นฟ้องต่อรัฐบาลกลางในมิชิแกนเพื่อพยายามพลิกผลการเลือกตั้งในรัฐสำคัญ
ทรัมป์ตะลุยฟ้องนับใหม่-ไบเดนเดินหน้าทำงาน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ได้ยื่นฟ้องต่อรัฐบาลกลางในมิชิแกนเพื่อพยายามพลิกผลการเลือกตั้งในรัฐสำคัญ โดยอ้างว่ามีการโกงการเลือกตั้ง ขณะที่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่จากเดโมแครต ได้รับคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 เสียง และยังมีคะแนนดิบจากประชาชน 77 ล้านเสียง
ส่วนทรัมป์ 72 ล้านเสียง ขณะที่โฆษกจากรัฐมิชิแกนกล่าวว่าความพยายามของทรัมป์เป็นการส่งเสริมการกล่าวอ้างเท็จเพื่อทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนในการเลือกตั้ง และยืนยันว่าการเลือกตั้งของมิชิแกนเป็นไปอย่างยุติธรรมปลอดภัยโปร่งใสและผลลัพธ์ที่ได้คือการสะท้อนเจตจำนงของประชาชนอย่างถูกต้อง
ด้านนายไบเดน เดินหน้าเตรียมงานในรัฐบาลใหม่ที่เตรียมเข้าพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค.2564 โดยได้เสนอชื่อนายรอน เคลนเป็นหัวหน้าคณะทำงานเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 11 พ.ย. เป็นตำแหน่งสำคัญตำแหน่งแรกในคณะรัฐบาลใหม่โดยไม่คำนึงว่าทรัมป์จะยอมรับผลการเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม นายเคลน วัย 59 ปี เคยดำรงตำแหน่งดังกล่าวตั้งแต่ไบเดนดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี สมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา เป็นผู้มีประสบการณ์ในการต่อสู้กับไวรัสอีโบลา ซาร์ ในปี 2557 และยังเคยวิจารณ์การรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาลทรัมป์อย่างดุเดือดมาก่อน คาดว่าจะเป็นบุคคลสำคัญในการจัดทำแผนปฏิบัติการรับมือวิกฤติโควิด-19
ก่อนหน้านี้เคลนยังเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยระดับสูงของรองประธานาธิบดีอัล กอร์ ในสมัยประธานาธิบดี บิล คลินตัน ในการหาเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่ 59 นี้เคลนยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาโดยทั้งสองรู้จักและทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ไบเดนเป็นวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากรัฐเดลาแวร์ การตัดสินใจของไบเดนครั้งนี้ได้รับการชื่นชมอย่างกว้างขวางจากสมาชิกเดโมแครตและแม้แต่รีพับลิกันก็ตาม เอลิซาเบธ วอร์เรน ส.ว.จากเดโมแครต กล่าวว่าเคลนเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมและเป็นผู้มีประสบการณ์ที่จะช่วยให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติไปได้
ขณะที่ทรัมป์ได้เดินทางไปวางพวงมาลาที่หลุมฝังศพทหารนิรนามที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน เนื่องในวันทหารผ่านศึกสหรัฐฯเมื่อวันที่ 11 พ.ย. นับเป็นปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกนอกเหนือจากการไปตีกอล์ฟ 2 ครั้ง และทวีตอย่างเกรี้ยวกราดภายในทำเนียบขาว หลังจากมีการคาดว่าไบเดนเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ขณะที่ผลการเลือกตั้งยังไม่เสร็จสมบูรณ์ในอีกไม่กี่รัฐ ทรัมป์เป็นผู้นำในนอร์ทแคโรไลนา
ส่วนไบเดนมีคะแนนนำในอริโซนาและจอร์เจีย การนับคะแนนใหม่จึงไม่น่าจะเปลี่ยนผลลัพธ์ใดๆได้ การจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปทรัมป์จะต้องชนะทั้ง 3 รัฐที่ยังไม่ประกาศผลอย่างเป็นทางการ รวมทั้งต้องพลิกชนะใน 1 รัฐหรือมากกว่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้อย่างสูง
ที่มา: www.thairath.co.th