ชาไข่มุก 2 แก้ว/สัปดาห์ อุทาหรณ์ของคนกินหวาน แม้จะยังไม่มีรายงานว่า คนไทยบริโภคหวานแล้วเป็นมะเร็ง แต่พบว่าอาจส่งผลต่อสุขภาพได้ และนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งในอนาคต
หวานพิฆาต! ชาไข่มุก 2 แก้ว/สัปดาห์ เสี่ยงมะเร็ง
อุทาหรณ์ของคนกินหวานมีให้เห็นแล้ว เมื่อสองสามวันที่ผ่านมา รายงานข่างจาก “จีน” กรณี เด็กหญิงวัย 8 ขวบ ต้องเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งไต โดยแพทย์วินิจฉัยว่ามีสาเหตุจากการกินขนมหวาน และดื่มชานมไข่มุกเป็นประจำทุกวันตั้งแต่อายุ 2 ขวบ
รายงานข่าวระบุว่า พ่อของเด็กหญิงชาวจีนรายนี้ เป็นเชฟขนมหวาน จึงมักจะนำขนมที่ร้านกลับมาฝากลูกสาวทุกวันตั้งแต่เด็กหญิงอายุเพียง 2 ขวบ และบ่อยครั้งจะซื้อชานมไข่มุก เครื่องดื่มที่ลูกสาวชื่นชอบ ส่งผลให้ลูกสาวเริ่มมีน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา
อาการติดหวานไม่เกิดขึ้นเฉพาะใน จีน หากเกิดขึ้นกับทุกเพศวัยของคนไทย โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศ
"พิไลวรรณ" พนักงานออฟฟิต เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบความหวาน มันส์ ของ ชานมไข่มุกมาก ทำให้ทุกวันจะต้องซื้อชานมไข่มุกดื่ม วันละ1-2แก้ว มารับประทาน
“ชาไข่มุกทำให้รู้สึกสดชื่น ไม่ได้ดื่มแล้วเหมือนขาดอะไรบางอย่าง และไม่มีแรง"
แม้จะชื่นชอบ ชาไข่มุกมาก แต่พิไลวรรณก็ห่วงสุขภาพของตัวเอง ทำให้เเธอเลือกสั่งชานมไข่มุก หวานน้อย หรือ มีความหวาน ร้อยละ50 หรือ ร้อยละ30 ต่อแก้ว ควบคู่กับการออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเผาผลาญ และคุมอาหารในส่วนอื่นร่วมด้วย
แต่พฤติกรรมดื่มชานมไข่มุกของพนักงานออฟฟิศอื่นๆ ต่างจากสิ่งที่ "พิไลวรรณ" เป็น เพราะนอกจากไม่ลดหวานแล้วยังเพิ่มหวานขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้คนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวานและโรคอ้วนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อันตรายที่ซ่อนในความหวานมากเกินกว่าที่คาดคิด พญ.ชุติมา ศิริกุลชยานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ และ อาจารย์ประจำวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต ถึงกับบอกว่า รสหวานทำให้สดชื่น ดื่มติดต่อกันต่อเนื่องก็จะติด แต่ภัยความหวานส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
แม้จะยังไม่มีรายงานว่า คนไทยบริโภคหวานแล้วเป็นมะเร็งเหมือนเช่นเด็กหญิงชาวจีน แต่ก็พบว่า หากบริโภคหวานต่อเนื่องทุกวันในปริมาณที่เกินกำหนด อาจส่งผลต่อสุขภาพ ได้ เช่น โรคอ้วน อ้วนลงพุง โรคเบาหวาน ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด เซลล์ในร่างกายอักเสบ และนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งในอนาคต
“ปกติในร่ายกายของคนเรา ผู้ชายต้องการพลังงานอยู่ที่ 2,000 แคลลอรี่ต่อวัน ผู้หญิง 1,800 แคลอรี่ต่อวัน หากต้องการบริโภคน้ำตาลหรือว่าของหวาน ควรบริโภคได้ไม่เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมด”
ไม่ควรบริโภคชาไข่มุก เกินสัปดาห์ละ 2 แก้ว และไม่ควรกินติดต่อกันทุกวัน เนื่องจากพลังงานแคลอรี่ชาไข่มุก1แก้ว มีตั้งแต่ 350 แคลลอรี่ - 500 แคลลอรี่ ตามแต่ละปริมาณแก้ว ซึ่งเทียบเท่ากับการกินอาหาร 1 มื้อ
ไม่ต้องบอกว่า คนไทยติดหวานมากขนาดไหน เพราะจากข้อมูลของศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคตรวจสอบน้ำตาใน ชาไข่มุก 26 ยี่ห้อพบว่า ชาไข่มุก เกือบทั้งหมดมีน้ำตาลมากที่สุดอยู่ที่ 18.5 ช้อนชา ขณะที่ องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำปริมาณน้ำตาลที่ได้รับต่อวัน ไม่ควรเกิน 24 กรัม หรือ 6 ช้อนชา แต่พบว่ามีเพียง 2 ยี่ห้อเท่านั้น ที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยกว่า 24 กรัม
ภัยเงียบที่มากับความหวานจึงเป็นเพียงความสุขชั่วคราวที่กลายเป็นฆาตกรเงียบที่ทำร้ายสุขภาพของเรา
ที่มา: www.tnnthailand.com