เผยผลตรวจวิเคราะห์สารกันบูด พบในเม็ดไข่มุกมีสารกันบูด100%
ฉลาดซื้อมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเผยผลตรวจวิเคราะห์สารกันบูด น้ำตาล โลหะหนักในชาไข่มุก 25 ยี่ห้อ พบในเม็ดไข่มุกมีสารกันบูด100% แต่ไม่เกินมาตรฐาน และพบน้ำตาลในชานมไข่มุกสุดถึง 74 กรัมหรือ 18.5 ช้อนชา ซึ่งเกินกว่าปริมาณที่ควรได้รับถึง 3 เท่า
ศูนย์ทดสอบฉลากซื้อมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้สุ่มเก็บตัวอย่างชานมไข่มุก 25 ยี่ห้อ ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2562 ส่งตรวจวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ คือ ปริมาณพลังงาน น้ำตาล และสารกันบูด
นส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคเปิดเผยผลทดสอบพบว่า ชานมไข่มุกบางยี่ห้อมีน้ำตาลในระดับสูงมากเกือบ 19 ช้อนชา และทุกยี่ห้อเม็ดไข่มุดมีสารกันบูด 100% ส่วนผลทดสอบน้ำตาลในชานมไข่มุกพบน้ำตาลมากที่สุดถึง 74 กรัมหรือ 18.5 ช้อนชา ซึ่งเกินกว่าปริมาณที่ควรได้รับถึง 3 เท่า แต่ก็มีบางยี่ห้อที่มีน้ำตาลน้อยที่สุดคือ 16 กรัม หรือ 4 ช้อนชา
จึงอยากเสนอต่อผู้ประกอบการให้ปรับลดขนาดปริมาณต่อแก้วลงให้เหมาะสม เพื่อควบคุมไม่ให้ผู้บริโภคได้รับพลังงานและน้ำตาลต่อแก้วสูงจนเกินไป เพราะถ้าผู้บริโภคซื้อชานมไข่มุก ส่วนมากก็จะกินจนหมดแก้วทำให้ได้รับพลังงาน น้ำตาลต่อมื้อเกินความจำเป็น
ส่วนชานมไข่มุกที่มีสารกันบูดขอให้ผู้ประกอบการระบุฉลากให้ถูกต้องตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือ อย. และ อย. ควรเร่งผลักดันให้เกิดฉลากสัญญาณไฟจราจร เพื่อทำให้เกิดการปรับปรุงคุณภาพอาหารให้เป็นมิตรกับผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
ขณะที่ รองผู้จัดการโครงการฯเครือข่ายเด็กไทยไม่กินไม่หวาน ทพญ.มัณฑนา ฉวรรณกุล บอกว่า องค์การอนามัยโลกแนะนำประชาชนไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกินวันละ 6 ช้อนชาหรือ 24 กรัมเท่านั้น ดังนั้น จึงควรงดเครื่องดื่มเหล่านี้ เพราะปริมาณน้ำตาลที่สูงหากได้รับในคราวเดียวจะรบกวนระบบการ matabolite ซึ่งจะทำให้เกิดกลุ่มโรคเรื้อรังไม่ติดต่อซึ่งมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตเช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน
ที่มา Nation TV
