ชานมไข่มุกคงเป็นเครื่องดื่มโปรดของหลาย ๆ คน แต่รู้กันหรือเปล่าว่า อันตรายของชานมไข่มุก มีอะไรบ้าง กินมาก ๆ อาจถึงตายได้เลย!
ชานมไข่มุกคงเป็นเครื่องดื่มโปรดของหลาย ๆ คน แต่รู้กันหรือเปล่าว่า อันตรายของชานมไข่มุก มีอะไรบ้าง กินมาก ๆ อาจถึงตายได้เลย!
"ชานมไข่มุก" เครื่องดื่มยอดฮิตในยุคนี้ที่เรียกได้ว่ากินกันแทบจะทุกคน เพราะเป็นเครื่องดื่มหวาน ๆ กินแล้วชื่นใจ แถมยังมีไข่มุกให้เคี้ยวหนุบหนับ กินแล้วเพลินสุด ๆ นอกจากนี้สาเหตุหนึ่งที่ทำให้
คนติดชานมไข่มุกกันมากก็เป็นเพราะในชานมนั้นมีคาเฟอีนผสมอยู่ด้วย ซึ่งเราก็น่าจะพอรู้กันอยู่แล้วว่า น้ำตาล และคาเฟอีนนั้น เป็นหนึ่งในสารที่ทำปฎิกิริยาต่อสมอง ทำให้เกิดอาการเสพติดได้
ไม่ต่างจากการเสพสารเสพติดเลยทีเดียว แต่ว่า อันตรายของชานมไข่มุก ไม่ได้มีแค่นี้น่ะสิคะ เพราะแม้ว่าการเสพติดน้ำตาลและคาเฟอีนจะไม่ได้เป็นอันตรายเหมือนยาเสพติด แต่ก็ยังเป็นสาเหตุให้ เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้อยู่ดีค่ะ
อันตรายของชานมไข่มุก
ก่อนที่เราจะไปดูว่าชานมไข่มุกแสนอร่อยนี้มีอันตรายอย่างไรบ้าง ไปดูส่วนประกอบหลักของชานมไข่มุกกันก่อนดีกว่าค่ะ ในชานมไข่มุก 1 แก้วนั้น มีทั้ง น้ำตาล คาเฟอีน นม หรือบางร้านก็อาจจะ ใช้ครีมเทียม ที่มีส่วนประกอบของไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และในเม็ดไข่มุกนั้นก็ยังเต็มไปด้วยแป้งและน้ำตาล ไม่มีสารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์เลย ซึ่งเจ้าส่วนผสมเหล่านี้นี่แหละ ค่ะที่เป็นตัวการสร้างโรคร้ายให้กับเราอันตรายของชานมไข่มุก
อย่างที่รู้กันว่าในชานมไข่มุกนั้นมีน้ำตาลอยู่เยอะมาก โดยเฉลี่ยแล้ว "ชานมไข่มุก 1 แก้วจะมีปริมาณน้ำตาลอยู่ที่ 8-11 ช้อนชาต่อแก้ว ซึ่งตามปกติแล้วคนเราควรบริโภคน้ำตาลไม่เกินวันละ 6 ช้อนชาเท่านั้น" เท่ากับว่าชาไข่มุกแก้วเดียวก็มีน้ำตาลเกินไปเท่านึงแล้ว ยังไม่นับรวมน้ำตาลที่ได้จากอาหารอื่น ๆ ที่เรากินอีก หรือถ้าใครที่กินมากกว่า 1 แก้วล่ะก็ เรียกได้ว่าปริมาณน้ำตาลพุ่งสูง ปรี๊ดทะลุปรอทกันเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ยังมีคอเลสเตอรอล ไขมันทรานส์ จากนม และครีมเทียม แถมแคลอรี่สูง เพราะตัวชานมเองก็หวานมันมากอยู่แล้ว แต่ยังพ่วงไปด้วยแคลอรี่จากไข่มุก ที่มี พลังงานราว ๆ 2 kcal ต่อเม็ด ทำให้ซึ่งถ้านาน ๆ ทีกินก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าเรากินเกินบ่อย ๆ ล่ะก็ ผลเสียที่จะตามมาคือ
โรคอ้วน เพราะชานมไข่มุกเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงมาก เมื่อเรากินเกินความต้องการของร่างกายในแต่ละวันมีหรอที่จะไม่อ้วนขึ้น แต่บางคนอาจจะชะล่าใจว่าตัวเองกินแล้วไม่อ้วน ไม่น่าเป็นอะไร ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดค่ะ เพราะต่อให้เราไม่อ้วนขึ้นแต่ก็ยังมีความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ไม่ต่างกัน
เกิดไขมันสะสมในอวัยวะต่าง ๆ เพราะน้ำตาลฟรุคโตส เป็นตัวกระตุ้นให้ตับสะสมไขมันไว้ตามอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย เมื่อเวลาผ่านไปนานร่างกายก็จะยิ่งสะสมไขมันมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นภาวะ ไขมันพอกตับ ซึ่งส่งผลให้เกิดตับอักเสบหรือตับแข็งได้
โรคเบาหวาน ยิ่งกินหวานมากเท่าไหร่ ยิ่งเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานมากเท่านั้น โดยจากงานวิจัยได้ข้อสรุปว่า การที่เรากินน้ำตาลเกินจากปริมาณที่ร่างกายควรได้รับ ทุก ๆ 150 kcal (ประมาณ10 ช้อนชา) จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นเบาหวาน 1.1%
เพิ่มคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี น้ำตาลนอกจากจะส่งผลเสียต่อระบบอื่น ๆ แล้ว ยังกระตุ้นให้ตับผลิตคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีมากกว่าปกติ และยับยั้งไม่ให้กำจัดคอเลสเตอรอลชนิดนี้ออกจากร่างกาย อีกด้วย ในระยะยาวจะเกิดเป็นไขมันอุดตันในเส้นเลือดอันตรายของชานมไข่มุก
โรคหัวใจและหลอดเลือด น้ำตาลนอกจากจะทำให้เราเป็นโรคเบาหวานแล้ว ยังส่งผลต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วยเพราะทำให้เลือดข้นหนืดมากขึ้น หัวใจก็ต้องทำงานหนักขึ้นในการสูบฉีดเลือด ไปเลี้ยงทั่วร่างกาย
โรคความดันโลหิตสูงและหลอดเลือด การที่ได้รับน้ำตาลมากเกินไป จะทำให้ร่างกายผลิตอินซูลินออกมาจำนวนมาก และตกค้างอยู่ในกระแสเลือด ส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต หากเป็นเช่นนี้ใน ระยะยาว จะทำให้กล้ามเนื้อหลอดเลือดผิดปกติ จนระบบไหลเวียนเลือดมีปัญหา ส่งผลให้เป็นโรคความดันโลหิต ไปจนถึงโรคหลอดเลือด ไม่ว่าจะเป็น หลอดเลือดตีบ อุดตัน ซึ่งถ้าเป็นมากและรักษา ไม่ทันก็ถึงขึ้นเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรืออันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว
โรคมะเร็ง ข้อนี้ถือเป็นอีกเรื่องที่น่ากลัวเพราะจากผลสำรวจพบว่าไข่มุกหลาย ๆ ร้านนั้นมีสารที่เป็นสรก่อมะเร็งเจือปนอยู่ด้วย ซึ่งมักจะมาจากการใช้แป้งมันสำปะหลัง ที่เป็นวัตถุดิบหลักในการทำ ไข่มุกที่ไม่ได้คุณภาพ มีสารอันตรายเจือปนอยู่ ซึ่งข้อนี้อาจจะพอหลีกเลี่ยงได้บ้างด้วยการเลือกกินจากร้านที่มีคุณภาพและไว้วางใจได้เท่านั้น อันตรายของชานมไข่มุก
ใครจะคิดใช่มั้ยล่ะคะว่าเครื่องดื่มแสนอร่อยอย่างชานมไข่มุกจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้มากขนาดนี้ เพียงแต่ว่าคนเรายังไม่ค่อยตื่นตัวกันเท่าไหร่เนื่องจากว่ามันเป็นผลเสียที่ไม่ได้เห็นชัดเจนในทันที แต่จะเป็นผลเสียที่เกิดขึ้นเมื่อกินติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือจะเรียกว่า ตายผ่อนส่ง ก็ยังได้ เพราะฉะนั้นอย่ารอให้เกิดโรคก่อนค่อยหยุดกินเชียวค่ะ เพราะว่ากว่าจะถึงจุดนั้นจะรักษาก็ยากแล้ว ดีไม่ ดีจะกลายเป็นโรคประจำตัวที่ไม่มีวันรักษาให้หายขาดได้ด้วย ถ้าใครกำลังติดชานมไข่มุกล่ะก็ ควรจะเริ่มหยุดเสียตั้งแต่วันนี้เลย หรือค่อย ๆ ลดปริมาณลดความหวานลงก็ยังดีค่ะ
คุณอาจกำลังสนใจสิ่งนี้
- หมอถึงกับเตือน! กิน ชานมไข่มุก แถมโรคร้าย ยิ่งกินเยอะยิ่งเป็นเร็ว
- ตะลึง! สื่อนอกเผย ชานมไข่มุกของจีน อาจจะทำจาก รองเท้าบู๊ท-ยางรถยนต์
- ตะลึง! ชานมไข่มุกอันตรายกว่าที่คิด !!
ที่มา nonilo