เมียสุดทนร้องไห้จะกลับบ้าน บอกทำกันเกินไป ความผิดก็ยังไม่มี หนีก็ไม่ได้ ไม่เหมือนเฝ้าคนไข้ แต่เหมือนมาเยี่ยมที่เรือนจำ
เหมือนอยู่คุก! เมีย “อับดุลเลาะ” สุดทนทหารคุมเข้ม ยังไม่มีความผิด-หนีก็ไม่ได้
จากกรณี นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ อายุ 32 ปี ชาวบ้าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ที่ถูก จนท.ฝ่ายความมั่นคงควบคุมตัวไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แล้วหมดสติระหว่างถูกควบคุมตัว แพทย์โรงพยาบาลปัตตานี
วินิจฉัยว่ามีภาวะสมองบวม จากการขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน ซึ่งตัวแทนพรรคประชาชาติได้เข้าเยี่ยมแล้วเมื่อวันที่ 22 ก.ค.2562 ที่ผ่านมา พร้อมได้พาภรรยาของนายอับดุลเลาะ ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองปัตตานี และร้องเรียนต่อมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ต่อมา แพทย์ได้ส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลานั้น
วันนี้ (24 ก.ค.) นายโมฮำมัด รอฮมัด ซึ่งระบุว่าเป็นญาติกับนายอับดุลเลาะ เป็นคนช่วยสื่อสารกับหมอ เนื่องจากภรรยานายอับดุลเลาะ ยังตั้งสติไม่ได้ ส่วนพี่สาวก็สื่อสารภาษาไทยได้ไม่มาก และแม่ก็เป็นใบ้ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว Mohammat Rahmat ว่า แพทย์ได้นำนายอับดุลเลาะ ไปฉีดสีเพื่อตรวจสมอง ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงทำให้ไตวายและน้ำท่วมปอด ต้องให้ญาติลงชื่อยินยอม โดยในขณะที่แพทย์คุยกับญาติของนายอับดุลเลาะ ก็มีทหารร่วมรับฟังด้วยตลอด
นอกจากนี้ ได้มีทหารมาบอกตนว่าการถ่ายภาพในโรงพยาบาลเป็นการทำผิดกฎของโรงพยาบาล ซึ่งนายโมฮำมัด บอกว่า เห็นทหารถ่ายได้เขาจึงถ่ายด้วย
นายโมฮำมัด ยังเล่าถึงความเคลื่อนไหวภายใน รพ.สงขลานครินทร์ ว่า หลังจากนั้นได้เข้าไปดูอาการของนายอับดุลเลาะ เมื่อเดินไปถึงหน้าทางเข้าตึกไอซียู ได้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขอดูบัตรประชาชนและสอบถามว่าเกี่ยวข้องอะไรกับคนไข้ ตอนแรก รปภ.จะไม่ให้เข้า แต่เมื่อนายโมฮำมัด อธิบายให้เข้าใจ รปภ.จึงให้เข้าไปได้ เมื่อไปถึงประตูห้องไอซียูก็มีทหารอยู่ 2 นาย ผลัดกันนั่งเฝ้าที่โต๊ะสำหรับญาติ ที่โรงพยาบาลจัดไว้ให้ เมื่อดูนายอับดุลเลาะ แล้ว นายโมฮำมัด ได้ออกมาเจอกับครอบครัว ซึ่งกำลังร้องไห้กันอยู่ และบอกว่า จะกลับบ้าน นายโมฮำมัด จึงถามไปว่าเกิดอะไรขึ้น
ภรรยาของนายอับดุลเลาะ บอกว่า “มันเกินไปแล้ว เขาก็ยังไม่รู้สึกตัว หนีก็ไม่ได้ ความผิดก็ยังไม่มี เพราะยังเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย ทำไมต้องเฝ้ากันขนาดนี้ แทนที่จะเป็นการเฝ้าคนไข้ รู้สึกเหมือนมาเยี่ยมคนในเรือนจำ”
นายโมฮำมัด จึงได้ไปสอบถามกับ รปภ.ว่า ทำไมต้องมาเฝ้าที่หน้าประตูเพิ่ม รปภ.ตอบว่า เป็นคำสั่งของโรงพยาบาล เขาโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กว่า “นั่นหมายความว่า หน้าประตูเข้าตึกจะมียาม 2-3 คน ด้านในจะมี จนท.ทหารอย่างน้อย 2 คน และด้านนอกประตูห้อง icu อย่างน้อย 1-2 คน
"ด้วยสภาพร่างกายที่ล้าและสภาพจิตใจที่แย่ (ในตอนนั้น) ผมเองก็เริ่มรู้สึกรับไม่ไหว มันเกินกว่าที่ผมจะแบกรับแล้ว เลยของดอัปเดต ขอบคุณนักศึกษา ม.อ.ที่มาให้กำลังใจและอำนวยความสะดวกในทุกๆ เรื่อง วันนี้จะไม่ลงรูป”
- แจงรักษา “อับดุลเลาะ” ไม่พบสาเหตุหัวใจหยุดเต้น ตั้งคกก.อิสระสอบ!!
- กอ.รมน.แจง ”อับดุลเลาะ” ขาดออกซิเจนสมองตาย ลั่นหากผิดลงโทษอาญาทหาร
- “มาราปาตานี” ร่อนแถลงการณ์ จี้องค์กรระหว่างประเทศ แก้ปัญหาชายแดนใต้
- เปิดใจอุสตาส “มุกตาร์”ปอเนาะพ่อมิ่ง หลังถูกคุมตัว (คลิป)
- เปิดใจแพะคดียาบ้าลังส้ม โกรธตำรวจทำงานชุ่ย จนชีวิตพัง ติดคุกฟรี 69 วัน
ที่มา: mgronline.com