กอรมนแจง ‘อับดุลเลาะ’ ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง สมองตาย จากการขาดออกซิเจน
เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ห้องประชุม โรงแรมปาร์ควิวแอนรีสอร์ท จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมด้วย นพ.ศักดิ์ชัย ตั้งจิตรวิทยา ผอ.รพ.ปัตตานี นพ.อรุณ ประเสริฐสุข รอง ผอ.รพ.ปัตตานี พญ.สุภัค พูนสวัสดิ์ อายุรแพทย์ รพ.ปัตตานี พ.อ.นพ.โชคชัย ผลวิชิต ศูนย์อำนวยการแพทย์ จังหวัดชายแดนภาคใต้
และร.ต.นพ.พีรวุฒิ เสนามนตรี แพทย์ รพ.ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ร่วมกันแถลงร่วมให้ข้อเท็จจริง จากกรณีนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ อายุ 34 ปี ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงหมดสติ ขณะถูกควบคุมตัวภายในหน่วยซักถาม หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา
พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ในการแถลงในครั้งนี้ก็เพื่อชี้แจ้งข้อเท็จจริง ภายหลังเกิดเหตุก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง และมีการบิดเบือนในหลายประเด็น ซึ่งประเด็นหลักในทางการแพทย์มีเว็บเพจต่างๆ นำไปชี้นำสังคม อาจจะทำให้มาตรฐานทางการแพทย์ หมดความน่าเชื่อถือไปได้ว่า มีความพยายามบิดเบือน ทำให้สังคมเกิดความสับสนได้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 รู้สึกไม่สบายใจ ท่านสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ถ้าตรวจพบว่าเจ้าหน้าที่ละเมิด ก็จะไม่มีการปกป้อง จะดำเนินการลงทัณฑ์ ทางวินัยและทางอาญาทหารอย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ ในเรื่องของการพยายามที่จะทำความจริงให้ปรากฏ ท่านแต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ออกเป็น 2 ชุด กรรมการชุดที่ 1 ก็จะเป็นกรรมการในส่วนของฝ่ายทหารเพื่อดูแลขั้นตอนในการปฏิบัติทั้งหมด ของหน่วยซักถาม กรรมการชุดที่ 2 ก็คือ เป็นกรรมการที่ประกอบด้วย คณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชน องค์กรภาคประชาสังคม องค์กรศาสนา และภาคส่วนต่างๆที่เป็นที่ยอมรับในสังคม ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาร่วมกันเป็นคณะกรรมการในการตรวจสอบ
ซึ่งกรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่ได้อย่างอิสระ ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เป้าหมายที่ต้องการคือต้องการทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด ว่ามันมีสาเหตุมาจากอะไร เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่หรือไม่ หรือเป็นผลมาจากในเรื่องใด การจัดตั้งคณะกรรมการ ที่มาจากการคัดเลือกโดยมีผู้นำท้องถิ่นผู้นำท้องที่ผู้นำศาสนาภาคประชาสังคม เอ็นจีโอ และองค์กรต่างๆที่เป็นที่ยอมรับ
ซึ่งขณะนี้ทางคณะกรรมการจัดประชุมเพื่อกำหนดแนวทาง ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจริงๆแล้วในการแต่งตั้งกรรมการชุดนี้เป็นความพยายาม ระหว่างองค์กรสิทธิมนุษยชนกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ในเรื่องของการเปิดโอกาสให้องค์กรเหล่านี้ เข้ามาตรวจสอบในการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้อย่างโปร่งใส
เพื่อแสดงถึงเจตนารมณ์ของกองทัพว่า เราไม่มีนโยบายหรือไม่มีแนวทางในการ ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย หรือผู้ต้องหาก็ตาม ที่นอกเหนือจากนโยบายโดยเฉพาะ ในประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน ถือว่าเป็นประเด็นที่สำคัญ ที่กองทัพเองให้ความสำคัญเป็นที่สุด เราพยายามที่จะตั้งคณะทำงานเพื่อ ทำงานร่วมกัน ที่เป็นไปตามข้อเสนอของพระองค์กรต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง
ร.ต.นพ.พีรวุฒิ เปิดเผยว่า ในวันนั้นเวลาประมาณ 02.00 น. ตนเป็นแพทย์เวร ต้องเป็นคนตรวจร่างกาย เบื้องต้นเพื่อรับผู้ป่วยเข้าศูนย์ซักถาม สำหรับการตรวจร่างกายในวันนั้น ผู้ป่วยรู้ตัวมีสติดี สามารถเดินได้ทำตามคำสั่งได้ดี ไม่พบรอยบาดแผล ใดๆ ในร่างกาย เพียงแต่ว่าผู้ป่วยมีอาการปวดเล็กน้อยบริเวณเข่าซ้าย ไม่มีบาดแผลรอยแตกหักใดๆ เข่าผู้ป่วยขยับได้ปกติ ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น
จากนั้น ประมาณ 03.10 น. ผู้ป่วยกลับมาด้วยอาการหมดสติแล้ว จับชีพจรไม่ได้ วัดสัญญาณชีพไม่ได้ ทางโรงพยาบาลค่ายฯ ช่วยชีวิตทันทีคือปั๊มหัวใจช่วยชีวิตระดับสูง ในที่สุดแล้วใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 33 นาที จนระบบชีพจรของผู้ป่วยกลับมาตามปกติ เพียงแต่ผู้ป่วยยังไม่ฟื้นคืนสติ หลังจากนั้นต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เพื่อให้ผู้ป่วยมีชีพจรที่คงที่ เพื่อสามารถส่งต่อให้ทางโรงพยาบาลปัตตานีได้ ก็ใช้เวลาประมาณพอสมควร ระหว่างที่ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลปัตตานี อาการผู้ป่วยยังคงที่ ไม่ได้แย่ลง
ด้าน พญ.สุภัค เปิดเผยว่า เบื้องต้นที่คนไข้มาถึงโรงพยาบาลปัตตานี จากการตรวจยังไม่พบบาดแผล ที่จะอธิบายสาเหตุของหัวใจหยุดเต้นได้ และคนไข้ไม่รู้สึกตัว เนื่องจากเพิ่งกดหน้าอกเสร็จ และขาดออกซิเจน นาน
แต่ยังมีสัญญาณชีพที่คงที่ ด้วยยากระตุ้นหัวใจขนาดสูงเหมือนกัน และใช้เครื่องช่วยหายใจเต็มที่ ทางโรงพยาบาลปัตตานีได้เจาะเลือดเบื้องต้น เอ็กซเรย์ปอด ทำคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
อีกทั้งเอ็กซเรย์สมองคอมพิวเตอร์ พบว่าสมองบวม ซึ่งสาเหตุมาจากการขาดออกซิเจนนานเกินไป และรักษาแบบประคับประคองมาตลอด จนถึงรุ่งเช้าอีกวัน ทางแพทย์ก็ค่อยๆ ลดยากระตุ้นหัวใจและยาความดันได้ หลังจากนั้นประเมินอาการเพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่
ทั้งนี้ในวันนี้คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิประชุมหารือในเรื่องดังกล่าว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน เพื่อหาข้อสรุปและหาแนวทางในการดำเนินการที่เหมาะสม และขอยืนยันว่าหากตรวจพบว่าเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะไม่ปกป้อง และจะลงทัณฑ์สถานหนักทั้งวินัยและอาญาทหาร