เมื่อวันที่ 6 มิย62 ลุ้นกันตลอดทั้งวันทั้งคืน สำหรับ นายกคนใหม่ 2562 คือใคร ผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คือ พลอประยุทธ์ จันทร์โอชา และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
นายกคนใหม่ 2562 คือใคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาทำความรู้จักกัน!
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.62 ลุ้นกันตลอดทั้งวันทั้งคืน สำหรับ นายกคนใหม่ 2562 คือใคร ผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
จากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของสภาร่วม ส.ส. และ ส.ว. ปรากฎว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เสียงสนับสนุน 500 เสียง ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้เสียงสนับสนุน 244 เสียง มีงดออกเสียง 3 คน จากผู้เข้าประชุมทั้งหมด 747 คน
ดั้นนั้น นายกคนใหม่ 2562 คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 2 สมัย วันนี้มาทำความรู้จักกัน....
ตามการคาดการณ์ถึงนายกรัฐมนตรีคนถัดไปคือ "พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา" หรือ บิ๊กตู่ ที่นอกเหนือจากการรร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลโดยมีหัวหอกอย่างพรรคพลังประชารัฐ และสมาชิกวุฒิสภาอีก 250 เสียงการดำรงนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ในระยะเวลา 5 ปีของบิ๊กตู่ เริ่มต้นจากการเป็นหัวหน้าทหาร ในการทำรัฐประหาร เมื่อปี พ.ศ. 2557 ทั้งยังเป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และประธานสภานโยบายการ อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติในปัจจุบัน
เมื่อย้อนไปในชีวิตในวัยเด็ก พลเอกประยุทธ์ เป็นบุตรชายของพันเอก(พิเศษ) ประพัฒน์ จันทร์โอชา และเข็มเพชร จันทร์โอชา มารดาซึ่งรับราชการครู สมรสกับรองศาสตราจารย์นราพร จันทร์โอชา รองประธานมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม มีบุตรฝาแฝด 2 คน
พลเอกประยุทธ์ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 จากโรงเรียนสหะกิจวิทยา จังหวัดลพบุรี ต่อมาได้เข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จังหวัดลพบุรี แต่เรียนได้เพียงปีเดียวก็ลาออก เนื่องด้วยบิดาเป็นนายทหารจำต้องโยกย้ายไปในหลายจังหวัด และได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ กรุงเทพมหานคร จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมทหาร จนสำเร็จเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 (ตท.12) และเป็นนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 23 และเป็นศิษย์เก่าวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร จากนั้นก็เข้ารับราชการครั้งแรกที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ก่อนรับราชการในสังกัดกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ตามลำดับ นอกจากนั้นเขายังอยู่ในกลุ่มทหารบูรพาพยัคฆ์และทหารเสือราชินี ทั้งยังเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งดำรงตำแหน่งระหว่างเดือนตุลาคม ปี 2553 ถึงตุลาคม ปี 2557
บทบาททางเมืองของบิ๊กตู่ เริ่มในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ.2556 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประท้วงต่อรัฐบาลรักษาการนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยอ้างว่ากองทัพเป็นกลางและจะไม่รัฐประหาร
แต่แล้วการรัฐประหารก็เกิดขึ้น วันที่ 20 พฤษภาคม 2557 พลเอกประยุทธ์ ได้ประกาศกฏอัยการศึกทั่วราชอาณาจักรและจัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อดูแลสถานการณ์ทางการเมืองขึ้นแทนศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ที่รัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรตั้งขึ้น โดยแต่งตั้งตัวเองเป็น ผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย
จากนั้นอีก 2 วันต่อมาก็ได้ทำการ รัฐประหาร ในนาม "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช." หลังการหารือกับตัวแทน 7 ฝ่ายไม่เป็นผล ด้วยประโยคที่ว่า "หากเป็นแบบนี้ ผมขอโทษด้วยนะที่ต้องยึดอำนาจ"
ต่อมาในประกาศฉบับที่ 10/2557 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติประกาศให้อำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีเป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่นั้นเรื่อยมา
ส่วนผลงานเพลง เรียกได้ว่าแทบจะออกอัลบั้มได้ / หลังการทำรัฐประหาร ได้แต่งเพลง "คืนความสุขให้ประเทศไทย" เพื่อสื่อความหมายจากใจที่ต้องการคืนความสุขให้ประชาชน ที่ประชาชนจำเนื้อร้องกันได้ว่า "เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน" จากนั้นก็แต่งเพลง "เพราะเธอคือ...ประเทศไทย" เป็นของขวัญในเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ ก่อนแต่งเพลง "ความหวังความศรัทธา"
โดยมีจุดมุ่งหมายถึง ความหวังความศรัทธาที่จะสามารถสร้างพลังยิ่งใหญ่ได้ แต่คนไทยทั้งชาติจะต้องร่วมมือร่วมใจ และรวมพลังของความเป็นไทยอย่างไม่ท้อแท้เพื่อไปสู่เป้าหมาย / ปี พ.ศ. 2560 ได้แต่งเพลง "สะพาน" โดยมีจุดมุ่งหมายถึง คณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร ตำรวจและประชาชนที่จะต้องเป็นสะพานก้าวข้ามความขัดแย้ง ก้าวข้ามสิ่งเก่า ๆ ที่ไม่ได้พัฒนาไปสู่สิ่งที่พัฒนาเพื่อปฏิรูปประเทศ
พ.ศ. 2561ได้แต่งเพลง "ใจเพชร" โดยมีจุดมุ่งหมายถึง เป็นการบ่งบอกถึงความพยายามในการแก้ปัญหาโดยไม่หวาดหวั่นอุปสรรคข้างหน้า จากนั้นก็ได้แต่งเพลง "สู้เพื่อแผ่นดิน" เพลง "ในความทรงจำ" โดยมีเนื้อหาในทำนองว่า ที่ผ่านมาเราเคยเดินผ่านเรื่องที่ปวดร้าว และวันนี้เดินมาจนจะหลุดพ้นและเริ่มสร้างความมั่นคง เพลง "วันใหม่" เพลง "มิตรภาพ" ในโอกาสฉลองความสำเร็จการก่อสร้างและเปิดสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชาที่บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพลง "มาร์ชไทยคือไทย" แต่งขึ้นในช่วงหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่ได้เห็นถึงความสามัคคีและความจงรักภักดีของชาวไทยที่ร่วมใจถวายต่อพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ตลอดจนระลึกถึงความเสียสละของบรรพบุรุษที่ทำให้ประเทศไทยสามารถสืบสาน ดำรงความเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่มาถึงทุกวันนี้
ผลงานเด่นที่ผ่านมาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดังนี้
1.การทวงคืนผืนป่าจากนายทุน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเดินหน้าอย่างแข็งขันและถือเป็นผลงานที่ค่อนข้างเด่นชัดของ รัฐบาล และคสช.โดยสามารถทวงคืนผืนป่าได้จำนวนมาก โดยในปี 59 สามารถทวงคืนผืนป่าจากนายทุนได้ 1.4 แสนไร่และในปี 60 ตั้งเป้าทางคืน 1.07 แสนไร่ และในปี 61 ยังคงเดินหน้าต่อ
2.นับตั้งแต่ปี 58 จากปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม จึงทำให้ไทยถูก “ใบเหลือง” จากทางสหภาพยุโรป (อียู) และ คสช.ได้แก้ไขปัญหาหลายด้านทั้งการจดทะเบียนเรือประมง แก้ปัญหาการค้ามนุษย์ โดยการเดินหน้าในเรื่องนี้อย่างจริงจัง จึงคาดว่าจะได้รับการปลดใบเหลืองในเร็ววันนี้
3.การเดินหน้าจัดระเบียบสังคม ถือเป็น จุดแข็งของคสช.โดยเดินหน้าจัดระเบียบในหลายพื้นที่โดยเฉพาะการตั้งแผงค้าริมถนน จัดระเบียบรถตู้โดยย้ายไปยังสถานีขนส่งหมอชิต การขึ้นทะเบียนวินจักรยานยนต์ รวมถึงการจัดระเบียบแรงงานข้ามชาติ ของแรงงานชาวกัมพูชา เมียนมา และลาว
4.การปราบปรามผู้มีอิทธิพล ถือเป็นมาตรการที่ รัฐบาลและ คสช.ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องดำเนินการโดยทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง โดยกวาดล้างจับกุมอาวุธสงคราม อาวุธปืน กระสุน และวัตถุระเบิดได้จำนวนมาก มีผู้เกี่ยวข้องกว่า 30,000 คน รวมถึงและกำลังจับตาเครือข่ายและผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง
5.มาตรการแก้ไขปัญหาความยากจน รัฐบาล คสช.ถือเป็นภารกิจหลักของรัฐบาล เบื้องต้นรัฐบาลได้เปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย กว่า 13 ล้านคนและให้การช่วยเหลือทั้งการให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การสร้างอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ให้กลุ่มคนเหล่านี้
6.ประกาศแก้หนี้นอกระบบครั้งใหญ่ โดยเน้นการแก้ปัญหาอย่างครบวงจรตั้งแต่เจ้าหนี้และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ โดยให้เจ้าหนี้ที่ปล่อยกู้นอกระบบจัดตั้งเป็นธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) นับตั้งแต่เดือน ธ.ค.59 จนถึง ก.พ.61 มีนิติบุคคลยื่นคำขออนุญาตทั้งสิ้น 450 รายใน 66 จังหวัด
นอกจากนี้ยังปล่อยสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินผ่านธนาคารรัฐ 3 แห่งเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดย ณ สิ้นเดือน ก.พ.61 มีการอนุมัติสินเชื่อรวม 228,180 คน เป็นเงิน 10,127.15 ล้านบาท
7.ปัญหาข้าวค้างสต๊อกจากโครงการรับจำนำข้าว เป็นอีกโจทย์หลักของคสช.ที่ต้องดำเนินการ โดยตั้งแต่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศ ก.พาณิชย์ระบายข้าวออกไปแล้วกว่า 12 ล้านตัน จากสต๊อกทั้งหมด 17.76 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.11 ล้านบาท ( ก.ค.60)
8.การลงทุนโครงการเมกะโปรเจก โครงการสำคัญของรัฐบาล คือ โครงการพัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (ECC) ซึ่งประกอบด้วยโครงการใหญ่มากมาย ทั้งโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน โครงการพัฒนาท่าเรือ แหลมฉบัง ระยะที่ 3 โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรม มาบตาพุด ระยะที่ 3 ซึ่งได้มีการ ออก พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิศษภาคตะวันออก ในเดือน พ.ค.61 ที่ผ่านมา รวมถึงการดึง แจ็ค หม่า ประธานกรรมการบริหาร กลุ่ม บ.อาลีบาบา เข้ามาร่วมลงทุนในโครงการ สมาร์ท ดิจิทัล ฮับ ในพื้นที่ ECC มูลค่าลงทุนกว่า 11,000 ล้านบาท
9.การปลดธงแดง ICAO ได้เป็นผลสำเร็จหลังจากที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้ติดธงแดงประเทLไทย มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน จนต่อมาจากการเดินหน้าแก้ปัญหาอย่งจริงจัง ICAO ได้ถอดประเทศไทยออกจากรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน (ปลดธงแดง) ได้สำเร็จในช่วงปลายปี 60 ที่ผ่านมา
10.การปราบการเดินหน้าปราบปรามทุจริต เช่นการตรวจสอบทุจริตเงินทอนวัด โดยเฉพาะข้าราชการระดับสูงของสำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) ที่ขอเงินทอนวัดกว่าร้อยละ 80 และมีวัดดังหลายแห่งเกี่ยวข้อง
กระทรวงศึกษาธิการ ได้ตรวจพบการทุจริตกองทุนเสมาโดยมีข้าราชการระดับสูงระดับสูงเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยตลอดช่วงเวลา 10 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2551-2561 พบว่า ได้ทำการทุจริตเงินงบประมาณในโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนกว่า 88 ล้านบาท
อีกกรณีที่สร้างความตกใจให้กับสังคม การทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่มีเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับล่างไปจนถึงระดับปลัดกระทรวงที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เคยมีการกระทำผิดใน 53 จังหวัด งบประมาณกว่า 500 ล้านบาท
เฟซบุ๊กเพจ "ลุงตู่ตูน" โพสต์ระบุว่า "ผลงานของรัฐบาลลุงตู่ ที่นักการเมืองต้องอาย"
โดยเปรียบเทียบโครงการต่างๆ อาทิ มีการนำรูปโครงการโฮปเวลล์ที่ดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2533 แต่ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ จนสุดท้ายทำให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้กระทรวงคมนาคม และ รฟท. จะต้องคืนเงินค่าก่อสร้างและค่าใช้จ่ายอื่นๆ แก่บริษัท โฮปเวลล์ รวม 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน รวมถึงให้คืนหนังสือค้ำประกันมูลค่า 500 ล้านบาท เปรียบเทียบกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีการอนุมัติและดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายเส้นทาง อาทิ สายสีแดง ธรรมศาสตร์(รังสิต)-หัวลำโพง, สายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต, สายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เป็นต้น โดยภายในระยะเวลา 3-5 ปี มีการอนุมัติการก่อสร้างรถไฟฟ้าแล้วกว่า 350 กิโลเมตร ก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายสายเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอีกหลายสายมีความคืบหน้าตามลำดับ
นอกจากนั้น ยังมีการเปรียบเทียบภาพชุมชนแออัดริมคลองในพื้นที่ กทม. ในช่วงรัฐบาลก่อนหน้า กับภาพปัจจุบันของชุมชนริมคลองที่ได้รับการพัฒนาจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จากโครงการสร้างเขื่อนริมคลองลาดพร้าว และปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชุมชนริมคลองใน 8 เขตของ กทม. โดยเริ่มอนุมัติโครงการตั้งแต่ช่วงปี 2560 จนปัจจุบันการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชุมชนริมคลองแล้วเสร็จในหลายพื้นที่ อาทิ คลองลาดพร้าวปรับสภาพริมคลองและสร้างบ้านใหม่ใน 33 ชุมชน รวม 1,476 ครัวเรือน, คลองโอ่งอ่าง ตั้งแต่สะพานดำรงสถิตถึงสะพานโอสถานนท์ แก้ปัญหาการสร้างตลาดรุกล้ำลำคลอง จนเปลี่ยนสภาพลำคลองที่แออัดเป็นพื้นที่สาธารณะได้อีกครั้ง
- รวมภาพ นายกฯ บิ๊กตู่ สวมหมวก กะปิเยาะห์ เอาใจมุสลิม ที่น้อยคนจะได้เห็น
- นายกฯ เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน
- เปิดประวัติ 'ชวน หลีกภัย' เจ้าของฉายา 'มีดโกนอาบน้ำผึ้ง'
- บิ๊กตู่ ลั่น ไม่ได้ขึ้นค่ารถเมล์มานานแล้ว ขสมก.หนี้เยอะ!
- ประยุทธ์ สั่งคงมาตรการเข้มงวดจชต.ถึงวันฮารีรายอ
ที่มา: www.msn.com , news.thaipbs.or.th, เพจ "ลุงตู่ตูน"