นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช) เปิดเผยว่า
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เปิดเผยว่า กรณีที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเป็นนายกฯ ในบัญชีของพรรคพลังประชารัฐนั้นในการเสนอชื่อดังกล่าวต้องยื่นเอกสารตามที่ กกต. กำหนด 2 แบบ คือแบบ ส.ส. 4/29 ที่หัวหน้าพรรคต้องลงนามรับรองว่า การคัดเลือกได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองและข้อบังคับของพรรคการเมืองแบบ ส.ส. 4/30 ที่พล.อ.ประยุทธ์ต้องลงนามรับรองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นนายกฯ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
ซึ่งจากการตรวจสอบข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ข้อ 91(1) พบว่า การเสนอชื่อบุคคลคือ พล.อ.ประยุทธ์นั้น จะต้องให้พล.อ.ประยุทธ์มีหนังสือยินยอมก่อน และข้อ 91 วรรคสองระบุไว้ว่าการเสนอชื่อบุคคลใดที่มิได้เป็นไปตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าไม่มีการเสนอชื่อบุคคลนั้น
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ จะเห็นได้ว่าพรรคพลังประชารัฐพิจารณาคัดเลือกพล.อ.ประยุทธ์ไปก่อนที่จะมีหนังสือยินยอม กล่าวคือ ประชุมเห็นชอบเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ได้ยินยอมและตอบรับการเสนอชื่อเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ดังนั้นกรณีจึงไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ข้อ 91 วรรคสอง ซึ่งจะเห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์มีหนังสือยินยอมภายหลัง นั่นเอง กรณีนี้จึงไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรค
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังอาจเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นนายกฯ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) (12) และ (15) อีกด้วย เนื่องจากมาตรา 98 (3) ห้ามเป็นเจ้าของสื่อมวลชนใดๆ แต่พล.อ.ประยุทธ์ถูกร้องว่าเป็นเจ้าของสื่อออนไลน์หลายชนิด และพล.อ.ประยุทธ์ ยังมีฐานะเป็นหัวหน้า คสช. ที่มีอำนาจตามมาตรา 44 และได้รับเงินตอบแทนอีกเดือนละ 125,590 บาท จึงอาจเข้าลักษณะเป็นข้าราชการหรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐตามความในมาตรา 98 (12) และ (15)
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า จากข้อมูลที่พบจำเป็นต้องไปร้องต่อ กกต.ในวันที่ 11 ก.พ.นี้ เวลา 13.30 น. เพื่อให้ กกต. พิจารณาไม่ประกาศรายชื่อพล.อ.ประยุทธ์ตามแบบ ส.ส. 4/31 เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์เป็นบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคพลังประชารัฐ โดยไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรค และเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นนายกฯ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) (12) และ (15) ซึ่งโดยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 89 วรรคสอง ให้ถือว่าไม่มีการเสนอชื่อบุคคลนั้น
คุณอาจกำลังสนใจสิ่งนี้
- เปิด ของใช้ “ทูลกระหม่อมหญิงฯ” ใน “พระที่นั่งบรมพิมาน”
- เผยเหตุ ทูลกระหม่อมหญิงฯ ลาออกจากฐานันดร
- บิ๊กตู่ลั่น ไม่เจรจาทักษิณหนีคดี เย้ย อย่าไปให้ค่าคนอยากเลือกตั้ง จะมีกันสักกี่คน!
- แถลงการณ์ล่าสุด พรรคไทยรักษาชาติ หลังมีพระราชโองการ!
- ม.จ.จุลเจิม ถาม‘ทษช.’จะรับผิดชอบอย่างไร แนะยุติบทบาทก่อนอาจถูกยุบพรรค
ที่มา ข่าวสด