
ซาบีดา นำประชุม คกกฮัจย์ ย้ำแนวทางดูแลผู้แสวงบุญ 6,603 ราย ให้ปลอดภัยด้วยความรอบคอบ รัดกุม สะดวกสบายที่สุด เตรียมจัดพิธีส่งและอำนวยพรผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ปี 68
ซาบีดา นำประชุม คกก.ฮัจย์ ย้ำแนวทางดูแลผู้แสวงบุญ 6,603 ราย ให้ปลอดภัย
ซาบีดา นำประชุม คกก.ฮัจย์ ย้ำแนวทางดูแลผู้แสวงบุญ 6,603 ราย ให้ปลอดภัยด้วยความรอบคอบ รัดกุม สะดวกสบายที่สุด เตรียมจัดพิธีส่งและอำนวยพรผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ปี 68 พร้อมกันทั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินหาดใหญ่ 29 เม.ย.นี้
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย โดยมีนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการฯ นายมานะ สิมมา ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กระทรวงมหาดไทย นายประสาน ศรีเจริญ ผู้แทนจุฬาราชมนตรี พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ ร่วมประชุม
น.ส.ซาบีดา กล่าวว่า เมื่อช่วงกลางเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ได้รับมอบหมายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เดินทางไปเจรจาและจัดทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฮัจย์และอุมเราะห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งผลการเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น และเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนชาวมุสลิม ทั้งในเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประกอบศาสนกิจที่ลดลง รวมทั้งคุณภาพของการใช้ชีวิตในช่วงการประกอบศาสนกิจที่ซาอุดีอาระเบียที่มีมาตรฐาน และได้รับการดูแลอำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้น
น.ส.ซาบีดา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้มีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ก.พ.เห็นชอบแนวทางการขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ชาวไทยให้ดำเนินการตามความตกลงระหว่าง คกก.ส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยกับกระทรวงฮัจย์และอุมเราะห์ และสำนักงานการบินพลเรือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียที่จะมีขึ้นในแต่ละปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2569 เป็นต้นไป ส่งผลให้เกิดการแข่งขันทางด้านราคาค่าโดยสารมากยิ่งขึ้น รวมถึงการร่วมกับ บมจ.การบินไทย พัฒนาคุณภาพและรสชาติของอาหารสำหรับบริการพี่น้องมุสลิมที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์
“ในปี 2568 นี้จะมีเที่ยวบิน 3 สายการบินให้บริการ ได้แก่ 1.การบินไทย 2.เซาเดีย 3.ฟลายอะดีล โดยการบินไทย จำนวน 9 เที่ยวบิน ซึ่งเที่ยวบินปฐมฤกษ์ออกเดินทางจากสนามบินหาดใหญ่ไปกรุงมะดีนะห์ในวันที่ 29 เม.ย. และกลับวันที่ 12 มิ.ย. ในส่วนของสายการบินฟลายอะดีลแอร์ไลน์ จำนวน 5 เที่ยวบิน ออกเดินทางช่วงเดียวกับการบินไทย และสายการบินเซาเดีย จะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือในช่วงต้นวันที่ 29 เม.ย.ออกจากจากสนามบินสุวรรณภูมิไปยังกรุงเจดดาห์ กลับวันที่ 12 มิ.ย. และช่วงที่ 2 ออกเดินทางวันที่ 27 พ.ค.กลับวันที่ 2 ก.ค.โดยจะมีพิธีส่งและอำนวยพรผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ปี 68 พร้อมกันทั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินหาดใหญ่ในวันที่ 29 เม.ย. นี้” น.ส.ซาบีดา กล่าว
น.ส.ซาบีดา กล่าวอีกว่า จากการร่วมเดินทางไปตรวจที่พักเมื่อช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา พบว่าโดยภาพรวมมีความสะดวกสบายและอยู่ในพื้นที่ที่สามารถให้บริการด้านต่างๆ ได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางติดต่อกับสำนักงานของไทย การเดินทางไปประกอบศาสนกิจ ซึ่งคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการบริหารจัดการ เพื่อให้เกิดการดูแลด้านที่พักเป็นไปอย่างเหมาะสมที่สุด สามารถเข้าให้การดูแลช่วยเหลือผู้เดินทางไปแสวงบุญทั้ง 6,603 ท่านในระหว่างการใช้ชีวิตที่ซาอุดีอาระเบียอย่างทันท่วงที โดยยึดหลักการ คือปลอดภัย รอบคอบ รัดกุม สะดวกสบายที่สุด และการดำเนินการทุกขั้นตอน ทุกด้านต้องเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและทางราชการมากที่สุด
ด้านนายไชยวัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการปกครองในฐานะสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย มีความตั้งใจที่จะดำเนินการเพื่อให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปแสวงบุญได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างครบถ้วนทุกกระบวนการ เพราะงานนี้เป็นงานใหญ่
และช่วงที่ผ่านมานายอนุทิน น.ส.ซาบีดา รวมทั้งนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้กรมการปกครองบริหารจัดการการทำภารกิจการเดินทางไปประกอบศาสนกิจของพี่น้องชาวไทยมุสลิมให้ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุดตามกรอบของระเบียบ นโยบาย แนวทาง ข้อตกลง ซึ่งในปีนี้ค่าใช้จ่ายลดลง และการขับเคลื่อนงานของคณะกรรมการฯ อันประกอบด้วย ผู้แทนส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ทรงคุณวุฒิ จะส่งผลอันดีต่อการดำเนินงานในอนาคต เพราะทุกความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจะทำให้เกิดสิ่งที่ดีเพิ่มมากขึ้นกับพี่น้องชาวไทยมุสลิม เพื่อทุกท่านจะได้มีความสุขทั้งก่อน ระหว่าง และหลังจากเดินทางกลับจากการประกอบศาสนกิจ
ที่มา : khaosod
บทความที่น่าสนใจ