ต่างชาติหัวใสหวังโปรโมตร้านกัญชา ทำคอนเทนต์พ่นควันให้พี้ย่านป่าตอง
ต่างชาติหัวใสหวังโปรโมตร้านกัญชา ทำคอนเทนต์พ่นควันให้พี้ย่านป่าตอง
พ่อค้าชาวต่างชาติหัวใส ทำคอนเทนต์ใช้เครื่องพ่นควันกัญชาย่านท่องเที่ยวดังหาดป่าตอง หวังโปรโมตร้านค้ากัญชา จนท.เร่งตามตัวมาสอบปากคำ หลังมีคลิปว่อนโซเชียล
จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปชาวต่างชาติใช้เครื่องพ่นควันคล้ายเครื่องพ่นยุงตามบ้านเรือน แต่กลับใช้กัญชาเป็นตัวเผาไหม้จนเกิดควันแทนน้ำยาเคมีเดินพ่นไปทั่วภายในซอยบางลา หาดป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นวอล์กกิ้งสตรีทหรือถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยสถานบันเทิงยามค่ำคืนเป็นจำนวนมาก จนสร้างความตระหนกตกใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินท่องราตรีเป็นอย่างมากท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าสามารถทำแบบนี้ได้หรือไม่ จนมีการแชร์คลิปดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 18 ต่อเนื่องวันที่ 19 ส.ค. 66 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอกะทู้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอกะทู้และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตองนำกำลังไปตรวจสอบภายในซอยบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ซึ่งเป็นจุดที่เกิดคลิปดังกล่าวเพื่อตรวจสอบใบอนุญาตและเน้นย้ำพร้อมให้คำแนะนำกับร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชา ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยบางลา เพื่อให้ปฎิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบที่กำหนด หลังมีชาวต่างชาติใช้เครื่องพ่นควันกัญชาไปทั่วซอย ขณะที่นายเฉลิมพงศ์ แสงดี ส.ส.เขต 2 ภูเก็ต และนายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตองร่วมตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ด้วย
นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประธานชมรมกัญชาป่าตองได้ตรวจสอบหาข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มชายที่นำเครื่องพ่นมาพ่นควันกัญชาภายในซอยบางลา ทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้วว่าเป็นชายชาวต่างชาติที่ต้องการทำคอนเทนต์ เนื่องจากจะมีการเปิดร้านขายกัญชาใหม่ ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาติภูเก็ต อ.ถลาง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทราบพิกัดเรียบร้อยแล้ว และจะมีการเชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนที่จะมีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่นายเฉลิมพงศ์ แสงดี ส.ส. เขต 2 ภูเก็ต พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าวันนี้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นกัญชาเสรี จึงมีความพยายามในการควบคุมในความเสรีของร้านค้ากัญชาต่างๆ โดยเฉพาะที่มีผู้ประกอบการและผู้ขายเป็นชาวต่างชาติ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นผู้รับผิดชอบในข้อกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมกัญชาเข้ามาตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดต่อไป
ที่มา : http://www.thairath.co.th/