นอกจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนางเมลาเนีย ทรัมป์ ผู้นำและภริยาที่กลายเป็นข่าวใหญ่
นอกจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนางเมลาเนีย ทรัมป์ ผู้นำและภริยาที่กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกแล้ว ยังมีบุคลใกล้ชิดทรัมป์อีกหลายคนที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้ง
1. โฮป ฮิคส์ ผู้ช่วยประธานาธิบดี – ติดเชื้อวันพฤหัสบดี
2. นิโคลาส ลูนา ผู้ช่วยคนสนิทของประธานธิบดี ที่เพิ่งมีรายงานว่าติดเชื้อคนล่าสุด (วันอาทิตย์)
3. รอน จอห์นสัน ส.ว. สหรัฐฯ จากรีพับลิกัน
4. รอนน่า แมคแดเนียล ประธานที่ประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน (RNC chairwoman) - ติดเชื้อ 30 กันยายน และ กักตัวแล้ว ซึ่งพบว่าสมาชิกครอบครัวก็ติดเชื้อด้วย
5. ไมค์ ลี ส.ว. สหรํฐฯ จากรีพับลิกัน – ติดเชื้อวันศุกร์
6. ธอม ธิลลิส ส.ว.สหรัฐฯ จากรีพับลิกัน – ติดเชื้อวันศุกร์
7. เคลยานนี คอนเวย์ อดีตที่ปรึกษาของทรัมป์ – ติดเชื้อวันศุกร์ หลังช่วยทรัมป์เตรียมงานดีเบตรอบแรก และยังร่วมงานที่สวนกุหลาบ เมื่อวันที่ 26 กันยน เพื่อตั้งพิพากษาศาลสูงด้วย
8. คริส คริสตี้ อดีตผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซี่ ซึ่งช่วยทรัมป์เตรียมงานดีเบตรอบแรกและร่วมในการประกาศเลือกผู้พิพากษาศาลสูง เมื่อวันที่ 26 กันยาน พบว่าติดเชื้อเมื่อวันเสาร์ หลังได้เข้ารับการตรวจเชื้อเพื่อเช็กอัพ
9. จอห์น เจนกินส์ - ประธาน ม.นอร์ท เทอร์ดาม สหรัฐฯ
จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดถึงอาการของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งมีรายงานว่าระดับออกซิเจนในร่างกายเขาตกลงถึง 2 ครั้ง และต้องรับการรักษาด้วยยา “สเตียรอยด์ dexamethasone (เดกซาเมทาโซน)” ในการรักษาโควิด-19 โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้สัมภาษณ์สื่อสหรัฐฯ ว่าการที่มการให้ยาตัวนี้ก็อาจหมายความได้ว่า “อาการของทรัมป์นั้นค่อนข้างน่าวิตก” เพราะเป็นยาที่ไม่ควรใช้กับใครที่ไม่ป่วยหนักขนาดที่ต้องให้สเตียรอยด์เพราะมันจะไปกดภูมิคุ้มกัน แต่ดร.ฌอน คอนเลย์ แพทย์ประจำทำเนียบขาวระบุกับนักข่าวที่หน้าโรงพยาบาล วอลเตอร์ รีด ในแมร์รีแลนด์ ว่าเลือกที่จะให้ยาตัวนี้เพราะมองว่าจะมีผลไปในทิศทางที่ดีเมื่อให้แต่เนิ่นๆ และยังเป็นการลดความเสี่ยงได้อีกด้วย
มีผลการวิจัยแบบสุ่มจากผู้ป่วยโควิด-19 ที่พบว่า หากผู้ป่วยได้รับยา เดกซาเมทาโซน ซึ่งเป็นยาราคาถูกและใช้กันอย่างกว้างขวางที่ช่วยลดการอักเสบที่เป็นอันตราย โดยมีการแนะนำให้ใช้ยาตัวนี้กับผู้ป่วยโควิด-19 ที่พัฒนาอาการอักเสบไปทั่วร่างกาย โดยเฉพาะในปอดและระบบภายในหลายอย่างที่เหมาะจะใช้ยาตัวนี้
ขณะที่การหาเสียงของปธน.ทรัมป์ ยังดำเนินต่อไป โดยเฉพาะเมื่อวันอาทิตย์ ที่พบว่าทรัมป์ได้นำขบวนรถแห่ออกจากโรงพยาบาลเพื่อพบปะฝูงชนผู้สนับสนุนเขาหน้าโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ที่รพ. ถึงกับวิจารณ์พฤติกรรมของทรัมป์อย่างหนัก ว่า ไม่สมควร เพราะต่อให้เขาสวมหน้ากากนั่งอยู่ในรถแต่ความเสี่ยงในการแพร่เชื้อในรถก็ใช่ว่าไม่มี และรถ SUV คันนี้ ไม่ใช่รถกันกระสุน แต่มีการปิดผนึกอย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันการโจมตีทางเคมี ซึ่งความเสี่ยงในการแพร่เชื้อในถือว่าสูงเช่นกัน และทุกคนที่อยู่ในรถก็ควรต้องกักตัวเอง 14วัน เพราะเสี่ยงป่วย
ด้านที่ปรึกษาการหาเสียงของทรัมป์ เจสัน มิลเลอร์ ยังให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า การเดินหน้าหาเสียงของพรรครีพับลิกันจะยังคงมีต่อไปเหมือนเดิม โดยที่ไม่มีการเพิ่มเติมมาตรการใดๆ ซึ่งก็จะยังคงแจกหน้ากากฯและเจลล้างมือ เช่นเดิม เหมือนที่เคยปฏิบัติมาตั้งแต่ก่อนที่ทรัมป์จะป่วยลง พร้อมยืนยันว่ามันเป็นความปลอดภัยอย่างที่สุดแล้ว เพราะก็ทำเช่นนี้มาตลอด