สรุปมติ ครม เรื่องการศึกษาทั้งหมด ยืนยันเปิดเรียน 1 กรกฎาคม 63 เผยปฏิทินการเรียนการสอน วันไหนถึงวันไหน นับเวลาเรียนอย่างไร ชี้หากเวลาไม่พอ แต่ละสถาบันต้องจัดการเรียนชดเชย
สรุปมติ ครม. เรื่องการศึกษาทั้งหมด ยืนยันเปิดเรียน 1 กรกฎาคม 63 เผยปฏิทินการเรียนการสอน วันไหนถึงวันไหน นับเวลาเรียนอย่างไร ชี้หากเวลาไม่พอ แต่ละสถาบันต้องจัดการเรียนชดเชย
วันที่ 2 มิถุนายน 2563 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงมติที่ประชุม ครม. โดยมีช่วงหนึ่งได้สรุปเรื่องการศึกษาทั้งหมด โดยมีรายละเอียด ดังนี้...
- ยืนยันเปิดเทอมวันที่ 1 กรกฎาคม 2563
- การนับเวลาเรียน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 - 16 พฤษภาคม 2564 ถ้าหากไม่พอ ทางสถานศึกษาต้องพิจารณาหาแนวทางแก้ไข เช่น การสอนชดเชย
- การสอนชดเชย ขอให้สถานศึกษาบริหารจัดการตามความเหมาะสม และหากจะให้เรียนทางไกล ต้องกำหนดตารางสอนให้ชัดเจน เพื่อจะได้นำมานับชั่วโมงการเรียนได้
- การอนุมัติการจบการศึกษา ให้อนุมัติจบภายในวันที่ 9 เมษายน 2564
- สำหรับเด็กที่มีผลการเรียนไม่สมบูรณ์ สามารถประเมินผลและอนุมัติให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2564
โดยหลังจากนี้ต้องรอดูสถานการณ์โควิด-19 แบ่งเป็น 2 แนวทาง ดังนี้
1. หากสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย จำเป็นต้องหาวิธีการเรียนการสอนปฐมวัย-มัธยมตอนต้น ด้วยระบบโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ระบบดิจิทัล ดาวเทียม ระบบเคเบิลทีวี และไอพีทีวี 15 สถานี หากสถานการณ์ไม่คลี่คลาย ต้องใช้วิธีเหล่านี้ ซึ่งก็อาจพบปัญหาบ้าง ต้องทดลองและปรับแก้กันไป เนื่องจากเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่เราไม่เคยเจอกันมาก่อน
2. หากสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลาย ให้จัดการเรียนการสอนปกติในโรงเรียน ช่วงที่ยังไม่ปกติ 100% เรายังต้องรักษาระยะห่างในสังคม และมีมาตรการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ โดยต้องได้รับการอนุมัติจากศึกษาธิการจังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัด
ส่วนการวัดและการประเมินผล ต้องร่วมมือกันหลายฝ่าย ทั้งการสังเกต สัมภาษณ์ ตรวจเยี่ยมบ้าน ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ใช้การทดสอบรูปแบบต่าง ๆ การส่งประเมินทางอีเมล หรือการจัดทำตารางนัดหมายเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งแนวทางเหล่านี้เสนอมาโดยกระทรวงศึกษาธิการ และทาง สพฐ. ก็เห็นชอบด้วย
ส่วนสิ่งที่จะเป็นภาระเพิ่มเติม คือ อาจพิจารณาเรื่องเบี้ยเลี้ยง ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ครูต้องไปติดตามเด็กที่บ้าน ซึ่งต้องดูแลทั้งครูและนักเรียนด้วย ถ้ามันจำเป็นถึงขนาดนั้นก็ต้องทำ แต่ถ้า COVID-19 จบ ทุกอย่างก็ยุติ รัฐบาลต้องคิดทั้งหมดอย่างรอบคอบที่สุด
เนื้อหา/ภาพ: kapook