หลังจากมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติมาตรการเยียวยาเกษตรกร 10 ล้านครัวเรือน ครัวเรือนละ 15,000 บาท
หลังจากมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติมาตรการเยียวยาเกษตรกร 10 ล้านครัวเรือน ครัวเรือนละ 15,000 บาท โดยทยอยจ่ายเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน (เดือน พ.ค. - ก.ค. 63 ) เพื่อบรรเทาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ซึ่งรัฐบาลจะยึดโยงข้อมูลที่เกษตรกรขึ้นทะเบียนไว้กับกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก่อนหน้านี้ และฐานข้อมูลจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหรกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ด้วย โดยมาตรการเยียวยาเกษตรกรดังกล่าว จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขึ้นทะเบียน/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม รวมถึงเกษตรกรรายใหม่ด้วย ดังนี้
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขึ้นทะเบียน/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร
1. หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
ครัวเรือนเกษตรกรผู้ขอขึ้นทะเบียนจะต้องเป็นผู้ประกอบการเกษตร เป็นอาชีพหลัก หรืออาชีพรองก็ได้
ครัวเรือนเกษตรกร 1 ครัวเรือน จะมีตัวแทนมาขอขึ้นทะเบียนได้เพียง 1 คน ในการพิจารณาว่าครัวเรือนใดขอขึ้นทะเบียนซ้ำซ้อนหรือไม่ เจ้าหน้าที่จะต้องชี้แจงรายละเอียดให้เกษตรกร ผู้ขอขึ้นทะเบียนรับทราบ ตามนิยามที่กำหนด
เกษตรกรผู้ขอขึ้นทะเบียนต้องบรรลุนิติภาวะ และมีสัญชาติไทย กรณีที่เป็นนิติบุคคล จะต้องมีการมอบหมายผู้แทนมาขึ้นทะเบียน
2. สถานที่ขึ้นทะเบียน/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร
เกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งปรับปรุงได้ที่
สำนักงานเกษตรกรอำเภอทุกแห่ง
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อมและร่วมเป็นหน่วยสนับสนุน ที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่
อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.)
กรณีใช้โทรศัพท์มือถือ (Smartphone) เกษตรกรสามารถแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่าน DOAE Farmbook Application ได้ด้วยตนเอง
เกษตรกรรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ หรือเกษตรกรรายใหม่
ให้ยื่นเอกสารที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงที่ทำกิจกรรมการเกษตรอยู่ หากมีแปลงที่ทำกิจกรรมการเกษตรหลายพื้นที่ หลายอำเภอให้ยื่นที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงหลัก (อำเภอที่มีจำนวนแปลงมากที่สุด)
กรณีที่ใช้คอมพิวเตอร์แท็ปเล็ต (Tablet) ขึ้นทะเบียนเกษตรกร เจ้าหน้าที่สามารถรับขึ้นทะเบียนเกษตรกรราย ใหม่ในพื้นที่ พร้อมวาดผังแปลงไปพร้อมๆ กันในคราวเดียวได้ (เฉพาะพื้นที่ที่มี Internet)
3. เอกสารประกอบการขึ้นทะเบียน/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร
เกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม ใช้บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง
เกษตรกรรายใหม่ หรือ รายเดิม เพิ่มแปลงใหม่ ใช้บัตรประจําตัวประชาชนตัวจริง พร้อมหลักฐานแสดงสิทธิการถือครองที่ดินตัวจริง หรือสําเนาที่มีการรับรองสําเนาจากผู้ครอบครอง
ทั้งนี้ สามารถเรียกหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมได้ตามความจําเป็นและเหมาะสม
4. การขึ้นทะเบียน/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร สามารถดำเนินการได้ทั้งในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์และไม่มีเอกสารสิทธิ์
5. การขึ้นทะเบียน/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร สามารถดำเนินการได้ทุกลักษณะการถือครองที่ดิน ได้แก่ ของครัวเรือน เช่า อื่นๆ (ทำฟรี/ที่สาธารณประโยชน์)
6. การมอบอํานาจให้บุคคลอื่นมาดําเนินการแทน
ครัวเรือนเกษตรกรสามารถมอบอํานาจให้สมาชิกในครัวเรือนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนเกษตรกร เดียวกัน เป็นผู้ขอปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรแทนได้ แต่หากเป็นเกษตรกรที่ต้องการขอขึ้นทะเบียนใหม่ต้องแจ้ง ขึ้นทะเบียนเกษตรกรด้วยตนเอง
นิติบุคคล สามารถมอบอํานาจให้ผู้แทนขึ้นทะเบียน/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้
7. เจ้าหน้าที่ผู้รับขึ้นทะเบียนจะต้องย้ําให้เกษตรกรทราบว่าต้องแจ้งข้อมูลและกรอกข้อมูลในแบบคําร้องให้สมบูรณ์ ถูกต้อง ครบถ้วนตามความเป็นจริง พร้อมลงลายมือชื่อรับรองข้อมูล ในแบบคําร้องด้วย สําหรับผู้ขอขึ้นทะเบียนใหม่ ต้องมีผู้นําชุมชน (รายละเอียดตามคํานิยาม) ลงลายมือชื่อพร้อมระบุตําแหน่ง เป็นพยานการให้ข้อมูล
สำหรับเกษตรกรที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนนั้นให้เร่งดำเนินการภายในวันที่ 15 พ.ค. นี้ ตามหลักเกณฑ์ของกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อให้อยู่ในข่ายที่ได้รับความช่วยเหลือจากผลกระทบโควิด-19 ส่วนเกษตรกรรายใหม่นั้น ให้กรอกแบบฟอร์มการขึ้นทะเบียนเกษตรดาวน์โหลดได้ (คลิกที่นี่) พร้อมกรอกข้อมูล รวบรวมแบบฟอร์มไว้ที่กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อจัดส่งข้อมุลให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรบันทึกเข้าระบบในขั้นตอนถัดไป