วันที่ 8 พ.ย.62 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพประชาร่วมใจและศูนย์กู้ชีพนเรนทรธ์นครศรีธรรมราช เคลื่อนย้ายร่างของ เด็กหญิงศศิประภา อายุ 14 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าบริเวณศีรษะได้รับบาดเจ็บสาหัสมายังห้องฉุกเฉิน รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช โดยมีมารดาคือ นางทัดดาว อายุ 35 ปี อยู่ในสภาพตกใจสุดขีดเจ้าหน้าที่ต้องช่วยปฐมพยาบาลเบื้อง ต้นพร้อมทั้งตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พยายามเข้าเก็บข้อมูลคนร้าย
โดยพบว่าเด็กหญิงศศิประภา ถูกคนร้ายยิงมาจากบ้านเลขที่ 88/4 หมู่ 11 ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่เข้าทำการสอบสวนในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบ้านไม้สภาพเก่าที่เกิดเหตุอยู่บนที่นอนในโถงของบ้านเต็มไปด้วยกองเลือด บนพื้นเต็มไปด้วยเลือดเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นยังพบว่ามีเด็กชายอายุเพียง 4 ขวบ ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 81/4 ห่างจากหลังแรกไปเพียงเล็กน้อยได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน ญาติได้นำตัวส่ง รพ.ท่าศาลา ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อคือเด็กชายภัทรพงศ์ อายุ 4 ขวบ เบื้องต้นมีบาดแผลถูกกระสุนเข้าหน้าท้องได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นเดียวกัน
ญาติผู้บาดเจ็บที่อยู่ในเหตุการณ์แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าก่อนเกิดเหตุได้มีชายฉกรรจ์ 4 คนสวมเสื้อชุดสีทึบได้มาถามหาบ้านของนายวิชัย บิดาของเด็กหญิงศศิประภา บ้านที่อยู่ด้านหน้าได้ชี้เข้าไปว่าอยู่หลังด้านใน โดยไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้าย หลังจากที่คนร้ายเดินเข้าไปกลับได้ยินเสียงปืนนับสิบนัด ซึ่งพบว่ามีทั้งปืนสั้นและปืนยาวครบมือ ก่อนที่หนึ่งในคนร้ายจะสาดกระสุนมาใส่บ้านอีกหลังด้านหน้ากระสุนถูกเด็กชายภัทรพงศ์ ได้รับบาดเจ็บและยังยิงถล่มรถยนต์เก๋งเสียหายไปอีก 1 คัน หลังจากนั้นคนร้ายเดินไปขึ้นรถยนต์โตโยต้ายาริสสีขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียนที่จอดรออยู่บนถนนขับหนีไป หลังจากนั้นจึงพบว่าเด็กหญิงศศิประภา ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่บนที่นอนในบ้านของตัวเอง ส่วนอีกหลังเด็กชายภัทรพงศ์ซึ่งนอนอยู่บนชั้นสองของตัวบ้านถูกกระสุนได้รับบาดเจ็บ จึงช่วยกันนำตัวขึ้นรถเก๋งที่ถูกยิงไปส่ต่อให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพเคลื่อนย้ายส่ง รพ.
นางสาววิไลรัตน์ ระบุว่าคนร้ายมีปัญหากับนายวิชัย บิดาของของเด็กหญิงศศิประภา แต่ไม่ได้อยู่บ้านคนร้ายอาจเข้าใจว่าอยู่บ้านเมื่อเข้ามาแล้วได้เปิดฉากยิงถล่มหลายนัด คนที่มีเรื่องกับนายวิชัยได้ตรงเข้ามาที่บ้านนายวิชัยโดยตรง แต่กลายเป็นเด็กรับเคราะห์ หลังจากนั้นได้ย้อนมายิงบ้านที่อยู่ด้านหน้าและรถยนต์จนพังเสียหาย
ด้านพันตำรวจเอกเทเวศร์ ปลื้มสุทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยพันตำรวจโทธีระวุฒิ เทพเลื่อน รองผู้กำกับการสืบสวน ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ออกติดตามจนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 1 รายพร้อมอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ได้นำตัวไปสอบสวนขยายผล และกำลังติดตามผู้ก่อเหตุที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว
