พลออภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกระแสข่าวว่า
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกระแสข่าวว่า ตนเองจะเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีนั้น เป็นไปไม่ได้ ต้องพิจารณาบนพื้นฐานความเป็นจริงว่าเป็นไปได้หรือไม่ ด้วยสถานะภาวะทั้งที่ยังคงรับราชการเป็นทหาร และสถานะการเป็นสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งไม่สามารถเป็นไปได้ตามรัฐธรรมนูญกำหนด โดยจากกระแสข่าวที่ออกมา และกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ นั้น ก็เพราะเป็นคำถามนำ ขออย่าไปซีเรียส ส่วนในอนาคตนั้น ยืนยันว่า ไม่เล่นการเมือง ไม่เล่นกับนักการเมือง ขอเป็นเพียงเพื่อนนักการเมืองเท่านั้น
ขณะที่ พล.ท.พงศกร รอดชมภู เป็นประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า สิ่งที่แลกเปลี่ยนวันนี้ เป็นปะโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ที่ผู้บัญชาการทหารบกจะนำไปปฏิบัติแต่หลายเรื่องเป็นเรื่องลับ นำมาเปิดเผยไม่ได้ และวันนี้ถือว่าเป็นความร่วมมือระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับผู้ปฏิบัติการในฝ่ายบริหาร เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวในเรื่องของความมั่นคง
ผู้บัญชาการทหารบก ยังย้ำว่า มีความตั้งใจมาแลกเปลี่ยนความเห็นด้านความมั่นคงกับคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ของสภาผู้แทนราษฎรที่มี พล.ท.พงศกร รอดชมภู เป็นประธานคณะกรรมาธิการ ทั้งนี้ นับว่ามีบรรยากาศที่ดีและนิมิตรหมายที่ดี ในการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ต่อการทำงานของฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ โดยมีหลายประเด็นเรื่องความมั่นคงแลกเปลี่ยนความเห็นที่สอดคล้องกัน วันนี้ไม่ได้เป็นการปรับความเข้าใจ แต่เป็นบทบาทหน้าที่ของแต่ละฝ่ายของสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมาธิการ
ซึ่งมีข้อห่วงใยหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อกองทัพที่จะนำไปพัฒนาหรือไปเป็นข้อมูลต่อไป เช่น การเสนอความเห็นเรื่องของสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ เทคโนโลยีที่ควรนำไปใช้ หรือ เรื่องยาเสพติด โดยหลังจากนี้ไม่ได้มาแลกเปลี่ยนแล้ว แต่จะส่งที่ปรึกษาของกองทัพมาร่วมทำงานกับคณะกรรมาธิการฯ ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ดีจะได้เข้าใจคณะกรรมาธิการ
ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการทหารบก ระบุยืนยันว่า ในการบรรยายพิเศษเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ไม่ได้พูดเจาะจงถึงพรรคการเมืองใด การแลกเปลี่ยนต่อคณะกรรมาธิการวันนี้ จึงไม่ได้มีมุมมองต่อพรรคการเมืองใด ไม่ได้เอ่ยชื่อพรรค พูดไปตามบทบาทหน้าที่ ก่อนจะระบุเปรียบเทียบว่าจากภาพข่าวที่ปรากฎในทีวีของการพูดอภิปรายในสภาของ ส.ส. ที่ดุเดือด และการแลกเปลี่ยนวันนี้ เป็นคนละบรรยากาศคนและรูปแบบพร้อมยอมรับว่า เป็นสัญญาณที่ดีที่ทหารทำงานร่วมกับพรรคการเมืองได้ เพราะถ้าไม่ดีวันนี้คงไม่มา