กรณีนักศึกษาที่ถูกคุมตัวในอียิปต์ เดินทางไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยอัลอัซฮา
จากกรณีที่นายอิบรอเฮม มะลี อายุ 25 ปี ชาวอำเภอยะหา จังหวัดยะลา ซึ่งเดินทางไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยอัลอัซฮา กรุงไคโร ประเทศอิยิปต์ และถูกเจ้าหน้าที่อิยิปต์ควบคุมตัวเอาไว้
และถูกกล่าวหาว่า นายอิบรอเฮม มะลี ได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มไอเอส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา
ล่าสุดในวันนี้ (2 ต.ค. 62) นายมาหามะ มะลี อยู่บ้านเลขที่ 105/1 หมู่ที่ 4 ตำบลยะหา อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นบิดา นายอิบรอเฮม มะลี นักศึกษาที่ถูกทางการประเทศอียิปต์ควบคุมตัว
เปิดเผยว่า ตนเองทราบครั้งแรกจากไลน์เพื่อน ของลูกที่ได้ส่งข่าวมาว่าถูกควบคุมตัว ก็รู้สึกตกใจและไม่สบายใจ เนื่องจากเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดกับลูกของตน นายอิบรอเฮม มะลี เป็นลูกคนโต ได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศอียิปต์ ได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ที่มหาวิทยาลัยอัลอัซฮา ครั้งแรกหลังจบในประเทศไทย ก็ไปศึกษาที่ประเทศซูดานประมาณ 2 ปี
จากนั้นไปที่ประเทศอียิปต์ยังไม่ทันจบ ช่วงนี้ที่อิยิปต์มีการประท้วงบ่อย ความเป็นอยู่ก็ลำบาก ลูกศึกษาคณะนิติศาสตร์ ก่อนไปอียิปต์กลับมาอยู่เมืองไทยก่อน จากนั้นไปอียิปต์ ตนเองไม่เชื่อว่า นายอิบรอเฮม มะลี จะเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส
หลังทราบข่าวว่าถูกจับกุมก็ประสานกับนายอับดุลฮาเล็ม กาแบ ผู้นำศาสนา (บาบอ) ในพื้นที่ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน และนายอับดุลฮาเล็ม กาแบ เคยศึกษาที่ประเทศอียิปต์มาก่อน จึงให้ช่วยประสานไปยังประเทศอียิปต์ เพื่อทราบสถานการณ์
และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ก็เดินทางมาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนเอง ตนเองรู้สึกเป็นห่วงบุตรชายมาก จึงขอฝากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วยดูแลอย่างเร่งด่วน และทราบว่านายกรัฐมนตรีกำลังประสานงานในการช่วยเหลือ ตนเองจึงขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีที่ให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้
ขณะที่ นายอับดุลฮาเล็ม กาแบ ผู้นำศาสนา (บาบอ) เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเองได้รับทราบข่าวนี้จากการส่งต่อกันในไลน์ และเห็นข้อมูลว่าเป็นเด็กในพื้นที่ใกล้บ้านของตน จึงได้ประสานไปยังผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นจริงหรือไม่ และก็ได้รับทราบว่าเป็นเรื่องจริง เด็กถูกจับกรณีวีซ่าหมดอายุ รวมทั้งมีประเด็นเรื่องของความมั่นคง
ซึ่งเมื่อเป็นประเด็นความมั่นคงก็ถือเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศนั้น ๆ ตนเองจึงได้ประสานงานกับเพื่อนที่อยู่ในสถานทูต ที่อิยิปต์ ให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง และช่วยดูแล ซึ่งได้รับคำตอบว่าถ้ามีความคืบหน้าจะรีบมาแจ้งให้ทราบ แต่เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา มีสำนักข่าวแห่งหนึ่งรายงานว่า เด็กถูกจับที่ประเทศอิยิปต์ พร้อมกัน 100 กว่าคน และมีนายอิบรอเฮม มะลี ซึ่งเป็นคนไทย ถูกจับรวมในกลุ่มนี้ด้วย
แต่ในความเป็นจริง สถานทูตแจ้งว่า ที่นายอิบรอเฮม มะลี ถูกจับนั้นไม่ได้เกี่ยวกับการประท้วงที่อิยิปต์แต่อย่างใด การประท้วงเกิดขึ้นวันศุกร์ แต่นายอิบรอเฮม มะลี ไปร้านซ่อมนาฬิกาในวันอังคาร แล้วก็ถูกควบคุมตัว ขณะถูกควบคุมตัวก็มีนายอิบรอเฮม มะลี กับเพื่อน 2 คน แต่เพื่อนมีวีซ่า นายอิบรอเฮม มะลี วีซ่าหมดอายุ จึงถูกควบคุมตัวตามกฎหมาย ไปตรวจค้น บังเอิญไปเจอคลิปกลุ่มไอเอส และเรื่องเกี่ยวกับอาวุธปืน ในโทรศัพท์ของอิบรอเฮม จึงเกิดเรื่องขึ้นมา
และข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศ ก็ออกข่าวกันว่า นายอิบรอเฮม มะลี ให้การรับสารภาพว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอส แต่เมื่อตนได้ดูในคลิปที่มีการ แถลงการณ์ยอมรับ เหมือนกับว่าภาษายังไม่แข็งแรง เนื่องจากที่อิยิปต์ใช้ภาษาอาหรับ ไม่ทราบว่านายอิบรอเฮม มะลี เข้าใจสิ่งที่พูดออกไปหรือเปล่า หรือเข้าใจในคำถามหรือเปล่า ตนเชื่อว่านายอิบรอเฮม มะลี น่าจะไม่เข้าใจภาษาอาหรับเท่าที่ควร
ตนเองอยากให้ทุก ๆ หน่วยงาน หรือว่าสื่อสำนักไหนก็ตามพยายามเสนอข่าวข้อเท็จจริงที่ชัดเจน เพราะในวันนี้นายอิบรอเฮม มะลี เป็นจำเลยของสังคมไปแล้ว จากที่ดูในโซเชียล ส่วนกรณีข้อสงสัยว่าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอส หรือไม่นั้น
ตนเองจะขอชี้แจงว่า เด็กนักเรียนที่เดินทางไปศึกษาต่อที่อิยิปต์ทั้งหมด ไม่มีใครจะคิดหรือเข้าไปอยู่ในกลุ่มเหล่านี้อย่างแน่นอน เพราะทุกคนที่เดินทางไปอิยิปต์เพื่อเรียนหนังสือ
ส่วนการช่วยเหลือจากทางภาครัฐ เมื่อวานนี้ (1 ต.ค. 62) ท่านเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ก็เดินทางมา แล้วบอกครอบครัวของนายอิบรอเฮม มะลี ว่าให้สบายใจได้ เพราะทุกหน่วยงานรับเรื่องกันแล้ว
และเตรียมช่วยเหลือเต็มที่ ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากพิสูจน์แล้วพบว่านายอิบรอเฮม มะลี ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เป็นข่าว ตนเองก็อยากให้ภาครัฐและสังคมคืนกลับความบริสุทธิ์ให้กับนายอิบรอเฮม มะลี ด้วย