ความคืบหน้ากรณีรถกระบะที่นำนักศึกษาเทคนิคที่เลิกจากงานเสียหลักพุ่งชนเสาไฟ
ความคืบหน้ากรณีรถกระบะที่นำนักศึกษาเทคนิคที่เลิกจากงานเลี้ยงฝึกงานเสร็จสิ้นและดูคอนเสิร์ตหมอลำกลับที่พัก เสียหลักพุ่งชนเสาไฟส่องสว่าง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 6 คน บริเวณปากซอยกิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
วันนี้ตำรวจสมุทรปราการเดินหน้าหาหลักฐานดำเนินคดีกับคนขับรถกระบะ ด้านพ่อคนขับรถกระบะเปิดใจทั้งน้ำตา ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับเสียใจอย่างที่สุดที่เกิดเหตุสลดขึ้น
นายเลิศ สุขจันทร์ อายุ 55 ปี พ่อของนายนิตยา คนขับรถกระบะ และนายรณชัย ผู้บาดเจ็บ เปิดใจกับว่า หลังเกิดเหตุมีโอกาสได้พูดคุยกับลูกชายทั้ง 2 คนสั้นๆ ลูกชายเล่าว่า ขับรถพานักศึกษาฝึกงานไปดูคอนเสิร์ตหมอลำ หลังดื่มสังสรรค์กันที่งานเลี้ยงส่งวันจบการฝึกงานที่อู่
แต่ขณะอยู่ที่งานคอนเสิร์ต ลูกชายสังเกตเห็นกลุ่มนักศึกษาบางคนมีอาการมึนเมาตามประสาวัยรุ่น ลูกชายจึงชักชวนกลุ่มนักศึกษาขึ้นรถกลับที่พัก เพราะเกรงว่าหากอยู่ต่ออาจมีเรื่องมีราว
แต่ขณะขับออกมาจากงานคอนเสิร์ต มีรถคันนึงขับช้าอยู่ด้านหน้ารถลูกชาย ลูกจึงเร่งเครื่องและหักเลี้ยวหลบรถอีกคันที่อยู่ด้านหน้า ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ จากนั้นลูกชายก็ไม่รู้สึกตัว จนมาถึงโรงพยาบาล
ทั้งนี้ อยากขอโทษญาติผู้เสียชีวิตทุกคน รู้สึกเสียใจมาก ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องยอมรับสภาพ ยอมรับการตัดสินของกระบวนการยุติธรรม และจะไปร่วมงานศพของนักศึกษาที่ จ.ศรีสะเกษ ด้วย
นายเลิศ บอกด้วยว่า อาการของลูกชายที่เป็นคนขับรถ คือมีเลือดไหลในสมอง ขณะนี้ยังรอผลวินิจฉัยจากแพทย์ว่าต้องผ่าตัดหรือไม่ เพราะหากเลือดหยุดไหล อาจไม่ต้องผ่าตัด ส่วนลูกชายอีกคน แพทย์ต้องผ่าตัดขาที่หัก
ด้านคดีความ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผู้กำกับการ สภ.บางแก้ว บอกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังประสานไปยังแพทย์ เพื่อขอสอบปากคำคนเจ็บ เบื้องต้นคาดว่าจะสอบได้ 1-2 ปาก
ส่วนคนขับรถอาการยังสาหัส เจ้าหน้าที่จะรีบสอบปากคำทันที่ที่ทำได้ ส่วนหลักฐานจากกล้องวงจรปิด อยู่ระหว่างไล่ตรวจสอบตลอดเส้นทางที่รถกระบะขับพากลุ่มนักศึกษาออกจากงานคอนเสิร์ต และเตรียมให้ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจพิสูจน์ซากรถว่าสามารถระบุความเร็วรถก่อนเกิดอุบัติเหตุได้หรือไม่ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งข้อหากับคนขับ