วันที่ 2 สิงหาคม ร.ต.อ.ณัฐศิษฎ์ ชูเพชร รอง สวป.สภ.เมืองตรัง จ.ตรัง รับแจ้งเหตุจากนายสุพจน์ รอดรัตน์ อายุ 36 ปี ข้าวของสถานกวดวิชาเสริมทักษะอัพเบรน เลขที่ 223/11 ถนนวิเศษกุล อ.เมือง จ.ตรัง
จากนั้นได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมนำกำลังตำรวจ 5นายไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และประสานไปยัง ตำรวจชุดเก็บกู้ระเบิด (EOD) ภ.จว.ตรังทราบ จากนั้น ร.ต.อ. รัฐกาญจน์ พรหมราช ร้อยเวร สภ.เมืองตรังเดินทางมาสมทบพร้อมสอบถามรายละเอียดจากพยานที่เห็นเหตุการณ์ ที่เกิดเหตุพบวัตถุต้องสงสัยมีสภาพเป็นขวดพลาสติดห่อด้วยถุงดำแขวนอยู่บนกิ่งไม้ต้นพิกุล ความสูงประมาณ 1.5 เมตร
โดยบริเวณที่เกิดเหตุถนนวิเศษกุล ห่างจากบ้านพัก นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏรประมาณ 800 เมตร
ต่อมา พล.ต.ต.นุกุล ไกรทอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.สันทัน วินสน รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดเก็บกู้ระเบิด (EOD) ภ.จว.ตรัง
พร้อมสั่งการให้ปิดถนนเส้นทางบริเวณดังกล่าว กันชาวบ้านและรถที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงออกจากที่เกิดเหตุอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ชุดเก็บกู้ระเบิดมีการจัดเตรียมอุปกรณ์อย่างครบถ้วนเพื่อดำเนินการเก็บกู้วัตถุต้องสงสัย
และหลังจากที่ชาวบ้านทราบเรื่องต่างพากันตกใจและวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา หลังจากที่เพิ่มเกิดเหตุการณ์ระเบิดที่กรุงเทพมหานคร
นายสุพจน์ รอดรัตน์ เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาเสริมทักษะอัพเบรน กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาญาติของตนได้นำขยะไปทิ้งถึงขยะบริเวณฝั่งตรงข้าม สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติแขวนอยู่ภายในต้นพิกุล
จากนั้นได้มาบอกตนได้เข้าไปดูละสังเหตุเห็นวัตถุที่แขวนมีลักษณะเป็นขวดห่อด้วยถุงดำ คิดว่าน่าจะไม่ปกติจึงแจ้งให้ทางตำรวจได้รับทราบ
ประการสำคัญโรงเรียนของตนจะเปิดสอนกวดวิชาในวันนี้ หวั่นว่าจะเป็นอันตรายกับเด็กนักเรียนหากพบว่าเป็นวัตถุระเบิดจริงๆ เพื่อป้องกันสร้างความปลอดภัยจึงจำเป็นต้องแจ้งให้ทางตำรวจทราบเพื่อมาเก็บกู้วัตถุดังกล่าวออกไป
ขณะที่ชุดเก็บกู้ระเบิด (EOD) เริ่มปฎิบัติการ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่เกี่ยวข้อง รวมทั้งชาวบ้านที่มามุงดูและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง เคลื่อนออกจากที่เกิดเหตุกันทั้งหมด และเพื่อให้ชุดเก็บกู้ระเบิดปฎิบัติการได้สะดวก โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 15 นาที จึงสามารถเก็บกู้วัตถุต้องสงสัยได้
พล.ต.ต.นุกูล กล่าวว่า หลังจากที่ชุดเก็บกู้ระเบิด (EOD) ปฎิบัติการและตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นขวดน้ำโค้กขนาด 1 ลิตรหุ้มด้วยพลาสติกสีดำ ข้างในมีแต่น้ำ
ขณะนี้ให้ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่าใครเป็นผู้นำมาแขวน ส่วนสาเหตุทีนำมแขวนนั้นยังไม่ทราบจะต้องสืบสวนสอบสวนกันต่อไป สำหรับความผิดนั้นจะดำเนินไปเป็นไปตามข้อกฎหมาย ผู้ที่มาวางนั้นจะตั้งใจหรือไม่จะต้องดูข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามตนได้สั่งการให้ทางตำรวจปฎิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้น ประสานให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาด้วย
ที่มา มติชนออนไลน์