ในช่วงหน้าฝนประชาชนควรระมัดระวังอันตรายจากสัตว์มีพิษและแมลงพาหะนำโรค
รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วงหน้าฝนประชาชนควรระมัดระวังอันตรายจากสัตว์มีพิษและแมลงพาหะนำโรคที่เข้ามาในบริเวณบ้าน และจัดสภาพแวดล้อมทั้งในบ้านและบริเวณบ้านให้เป็นระเบียบ ไม่รกรุงรัง เพื่อช่วยป้องกันอันตรายของสัตว์มีพิษต่างๆ ได้ โดยเฉพาะงู ที่มักอาศัยอยู่ในบริเวณที่ชื้นแฉะ รก และมีแหล่งอาหาร
จึงควรทำลายแหล่งอาหารของงู เช่น หนู ด้วยการ ปิดช่องทางเข้าออกของหนูและงู ตรวจสอบระบบท่อไม่ให้มีรูรั่วหรือรอยแตก หรือหากพบงูอยู่ในบ้านให้โทรติดต่อสายด่วน 199 เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญมาจับงู
นอกจากนี้ให้ระวังแมลงมีพิษต่างๆ เช่น แมลงก้นกระดกที่มีลำตัว เป็นปล้องๆ มีสีดำสลับสีแดงหรือสีแดงอมส้ม ห้ามตีหรือขยี้ด้วยมือเปล่า ให้ใช้ผ้าหรือกระดาษเขี่ยแมลงออกไป หากสัมผัสโดนตัวแมลง
พิษของมันจะทำให้ปวดแสบปวดร้อน มีอาการคัน ผิวไหม้ ผื่นแดง และเป็นตุ่มน้ำ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น คือ จุ่มหรือแช่บริเวณที่โดนแมลงในน้ำเย็น 5-10 นาที สลับกับการเป่าให้แห้ง หากมีอาการอักเสบรุนแรงให้รีบพบแพทย์ทันที
สัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็กอีกชนิดที่ควรระวัง คือ กิ้งกือ บางชนิดสามารถปล่อยสารพิษจากลำตัว หากสัมผัสจะทำให้ผิวหนังไหม้ ปวดแสบปวดร้อน วิธีรักษาคือ ให้ล้างผิวด้วยน้ำมากๆ และทายาฆ่าเชื้อโรค
ซึ่งการป้องกันไม่ให้กิ้งกือเข้าบ้าน ควรกำจัดกองใบไม้ เล็มหญ้าให้สั้น ให้แดดส่องถึงพื้น และอุดรอยร้าว การป้องกันจึงควรทำความสะอาดสภาพแวดล้อมภายในบ้านและบริเวณนอกบ้านให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ รวมทั้งกำจัดแหล่งอาหารและแหล่งเพาะพันธุ์ต่างๆ
สำหรับเด็กเล็กและผู้สูงอายุควรดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ให้สัมผัสกับสัตว์ที่มีพิษหรือพาหะนำโรค และหมั่นสังเกตภายในบ้านไม่ให้สัตว์มีพิษเข้ามาได้ เพื่อความปลอดภัยของคนในบ้าน