ญาติพบศพสาวมุสลิมวัย 35 ปี ถูกฆ่าฝังดินในบริเวณข้างบ้านตนเอง ย่านประชาอุทิศ คาดเสียชีวิตมาแล้ว 1 สัปดาห์
ญาติพบศพสาวมุสลิมวัย 35 ปี ถูกฆ่าฝังดินในบริเวณข้างบ้านตนเอง ย่านประชาอุทิศ คาดเสียชีวิตมาแล้ว 1 สัปดาห์ ขณะที่ตำรวจสงสัยสามีผู้ตาย หลังเพิ่งแจ้งความภรรยาหาย แต่เจ้าตัวกลับหายไป จนท.เร่งล่าตัว
วันที่ 24 ก.พ. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.สุวัฒน์ องตอง รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุฆ่าฝังดินภายในบ้านเลขที่ 8/101 หมู่บ้านศุภาลัย พาร์ควิลล์ ถนนประชาอุทิศ ซอย 86 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พ.ต.อ.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผกก.สน.ทุ่งครุ แพทย์เวร รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกบนเนื้อที่ประมาณ 75 ตารางวา มีพื้นที่รอบตัวบ้าน และอยู่ในรั้วรอบขอบชิด จากการตรวจสอบบริเวณซอกทางซ้ายมือของบ้าน มีกองทรายตั้งไว้ และพื้นดินที่อยู่ในลักษณะเหมือนเพิ่งถูกฝังกลบอะไรบางอย่าง จึงทำการขุดลึกลงไปราว 60 เซนติเมตร พบศพ นางอิษฎา อุส่าห์เพียร อายุ 35 ปี ภรรยาของเจ้าของบ้านถูกฝังอยู่ใต้ดิน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กันสื่อมวลชนและผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องห้ามเข้าภายในหมู่บ้านโดยเด็ดขาด
สอบสวน นายวิชัย สอิ๊ดประเสริฐ อายุ 69 ปี เจ้าหน้าที่จัดการศพประจำมัสยิดในละแวกดังกล่าว เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวพักอาศัยอยู่ 6 คน มี นายนพ โสภณวสุ อายุ 36 ปี สามีผู้ตาย ตัวผู้ตาย และ ลูกๆ ชายหญิงอีก 4 คน โดยลูกสาวมีอยู่ 3 คน และลูกชายอีก 1 คน ที่ผ่านมา นางอิษฎา ผู้เสียชีวิตและสามีต่างป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามีประวัติรักษาตัวต้องรับประทานยาตลอด ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ประกอบอาชีพเป็นนายหน้าจัดหาบ้านเช่าและห้องเช่า แต่ตอนนี้น่าจะไม่ได้ทำงานอะไร กระทั่งวันนี้มีญาติของ นางอิษฎา ไปตามตนมาดูที่พื้นดินจุดที่พบศพ เพื่อให้ตนลองขุดลงไปดู พอตนขุดได้ประมาณ 30 เซนติเมตร ก็พบมือของผู้ตาย จากนั้นจึงหยุดเพื่อแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ
ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ กล่าวว่า หลังพบศพ นายนพ สามีของผู้ตาย ได้หายหน้าจากบ้านไป ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา นายนพ ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งครุ ว่าภรรยาหายไป จากบ้านตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. ทำอย่างไรก็หาไม่พบ จนวันนี้ทางญาติฝ่ายหญิงสงสัยมาดูที่บ้านพบกองทรายอยู่ข้างบ้าน ซึ่งปกติไม่เคยมีมาก่อน จึงเรียกเจ้าหน้าที่มัสยิดมาขุดจนพบศพเบื้องต้น
ต่อมา เมื่อเวลา 21.30 น. จากการดำเนินการขุดศพ นางอิษฎา ตรวจสอบพบว่าร่างผู้ตายถูกฝังในลักษณะคว่ำหน้า สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงินคาดเทา นุ่งกางเกงขายาวลายสก็อตสีแดงดำ สภาพเริ่มเน่าเปื่อย เบื้องต้นตรวจพบบาดแผลเป็นรูคล้ายถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบชนิดที่ศีรษะด้านหลัง 1 แผล และที่แผ่นหลังเหนือสะโพกมีแผลฉกรรจ์คล้ายถูกแทงด้วยของมีคม 1 แผล แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ สอดคล้องกับชนวนสังหารที่ทำให้เชื่อว่า สามีผู้ตายเป็นคนลงมือก่อเหตุแล้วหลบหนีไป เนื่องจากชุดคลี่คลายคดีพบข้อมูลว่าเมื่อประมาณปี 2559 ผู้ตายและสามีเคยตัดสินใจแยกกันอยู่มาระยะหนึ่ง เพิ่งจะกลับมาอยู่ด้วยกันได้ไม่กี่เดือน แต่ก็มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งมาโดยตลอด รวมถึง รปภ.ของทางหมู่บ้านก็ให้การว่า ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา เห็นรถบรรทุกทรายนำทรายเข้ามาส่งที่บ้านหลังนี้ 2 เที่ยว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งรัดติดตามตัวสามีผู้ตายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คุณอาจกำลังสนใจสิ่งนี้
- เป็นเรื่อง นักบิน “ไชน่า แอร์ไลน์” นั่งหลับขณะอยู่กลางอากาศ (มีคลิป)
- 10 โรคมะเร็ง รักษาฟรี ใช้สิทธิประกันสังคมได้ และนี่คือสาเหตุของโรคร้าย
- ภาพมหัศจรรย์ ทารกคลอดในถุงน้ำคร่ำ ชี้โอกาสเกิด 1 ใน 100,000
- น้ำตาโจรใต้! นาทีสำนึกต่อหน้าแม่ หลังทำแผนฆ่าเหยื่อหญิง (คลิป)
- ‘ธนาธร’ ลั่น อนาคตใหม่ ไม่มีวันยกมือโหวตนายกฯที่ไม่ได้เป็นส.ส.
ที่มา workpointnews