อแพทย์ มขหนุนคุม "กัญชา" ไม่ควรกำหนดตัวชี้วัดใช้รักษา ทบทวนใส่อาหาร-เครื่องดื่ม
อ.แพทย์ มข.หนุนคุม "กัญชา" ไม่ควรกำหนดตัวชี้วัดใช้รักษา ทบทวนใส่อาหาร-เครื่องดื่ม
อาจารย์แพทย์ ม.ขอนแก่น หนุนคุม "กัญชา" ใช้การแพทย์และสุขภาพ ไม่ควรกำหนดตัวชี้วัดใช้รักษา เพราะบางส่วนยังไม่ชัดเจน ข้อบ่งชี้ไม่ได้ใช้ได้ทุกคน ทบทวนการใส่ในอาหาร-เครื่องดื่ม
วันที่ 24 ก.ย.2566 นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า อาจารย์ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวถึงกรณีจะมีการทบทวนร่างกฎหมายกัญชา กัญชง เพื่อใช้ทางการแพทย์และสุขภาพ ปิดช่องสันทนาการ และอาจมีการนำบางส่วนกลับไปเป็นยาเสพติด ว่า
"อยากให้มีการทบทวนเรื่องการใช้กัญชาทั้งหมด ไม่ใช่แค่กัญชาทางการแพทย์ เนื่องจากทุกวันนี้ ยังพบเห็นร้านที่มีการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชา ซึ่งตนไม่เห็นด้วยที่มีการจำหน่ายลักษณะนี้ เพราะไม่มีการควบคุม ทำให้เด็กและเยาวชนสามารถเข้าไปซื้อได้"
ถามถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ช่วงที่ผ่านมามีตัวชี้วัดให้ใช้กัญชา เป็นทางเลือกการรักษา นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ควรส่งเสริมการใช้กัญชาทางการแพทย์ เป็นอีกทางเลือก แต่ไม่ควรกำหนดเป็นตัวชี้วัดเรื่องการรักษาพยาบาล เพราะข้อมูลยังมีรายละเอียดอีกเยอะ
อย่างการใช้กัญชารักษาโรคลมชัก หรือโรคพาร์กินสัน ฯลฯ ยังมีรายละเอียดไม่ใช่ว่าจะใช้ได้ทั้งหมด สิ่งสำคัญอยากให้ รมว.สาธารณสุข เขย่าเรื่องนี้ให้เหมาะสม และให้มีความชัดเจนว่า ตกลงจะสนับสนุนให้ใช้ในโรคอะไรอย่างไร มีรายละเอียดการใช้อย่างไร ต้องมาสรุปอีกครั้ง
“อย่างโรคลมชัก ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะใช้ได้หมด แต่ทุกวันนี้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดกันมาก อย่างผมเป็นหมอรักษาโรคลมชัก คนไข้ก็มาถามว่า ทำไม รพ.ไม่ใช้กัญชารักษา แต่จริงๆ จะใช้ได้เป็นกลุ่มคนเท่านั้น หรือโรคพาร์กินสัน หรือโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (MS) ก็รักษาเฉพาะอาการเกร็ง แต่รักษาตัวโรคให้หายไม่ได้ สิ่งเหล่านี้เราต้องคอยมาสื่อสารทำความเข้าใจประชาชน เพราะที่ผ่านมาประชาชนอาจเข้าใจว่ากัญชารักษาได้” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยอย่างมากกับการออกกฎหมายควบคุมให้ชัดเจน โดยเฉพาะการควบคุมการใช้เรื่องของการผ่อนคลายหรือสันทนาการ หรือแม้กระทั่งนำมาใช้ประกอบอาหาร เพราะมีความหมิ่นเหม่ที่จะทำให้เกิดการใช้ผิดประเภทได้ เนื่องจากมีคนไข้ ที่ดื่มน้ำกัญชา หรือทานอาหารที่ผสมกัญชาจนเกิดภาวะเป็นพิษก็มีเช่นกัน อย่างข่าวก็มีออกมาเรื่อยๆ จึงควรมีกฎหมาย มีข้อบังคับให้ชัดเจน ทั้งเรื่องการใช้ทางการแพทย์ และด้านอื่นๆว่า ใครบ้างสามารถนำกัญชามาใช้อย่างถูกกฎหมาย
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/